ข้อมูลจาก กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.) ระบุว่า เนื่องจากสถาณการณ์ในปัจจุบันเกิดเหตุทำร้ายร่างกายและการก่อคดีอาชญากรรมมากมายที่มีผู้หญิงตกเป็นเหยื่อดังนั้นกรุงเทพธุรกิจขอรวบรวมอุปกรณ์ป้องกันตัวแบบพกพาที่สามารถใช้ได้ไม่ถือว่าเป็นสิ่งผิดกฏหมาย เนื่องจากปัจจุบันยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับอุปกรณ์ป้องกันตัวพกพาโดยเฉพาะสำหรับ “ผู้หญิง” ว่าอุปกรณ์บางอย่างสามารถพกพาได้แต่ในความจริงแล้วมีอุปกรณ์บางอย่างที่ไม่สามารถพกพาได้เนื่องจาก “ผิดกฎหมาย” เพราะถ้าหากพกพาอุปกรณ์บางชนิดติดตัวไปจะถือว่าพกพาอาวุธทันที มีโทษปรับ และถือว่าเป็นคดีอาญา
เริ่มจากอุปกรณ์ที่พกได้ไม่ผิดกฎหมาย เนื่องจากถือว่าเป็นอุปกร์ที่ไม่ใช่อาวุธ ได้แก่
1. นกหวีด หรือ เครื่องส่งเสียง
ใช้สำหรับส่งเสียงเมื่อตกอยู่ในอันตรายเพื่อส่งเสียงให้คนบริเวณใกล้เคียงได้ยินและอาจทำให้คนร้ายเกิดความตกใจ
2. สเปรย์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
เช่น น้ำหอม ใช้สำหรับพ่นใส่บริเวณใบหน้าของคนร้ายเมื่อถูกประชิดตัว ทำให้คนร้ายมีอาการแสบบริเวณดวงตา ทำให้เราสามารถมีเวลาหนีได้
3. ไฟฉายพกพา
ใช้สำหรับส่องเข้าไปที่บริเวณใบหน้าของคนร้ายเมื่อถูกประชิดตัว ทำให้คนร้ายเกิดอาการตาพล่ามัว และมีโอกาสให้เรามีเวลาหนีได้
4. กรรไกร
แต่จะมีบางสถานที่ที่ห้ามพก เช่น สนามบิน ใช้เพื่อป้องกันตัวเบื้องต้นเมื่อถูกทำร้ายแบบประชิดตัว
5. คัตเตอร์
จะมีบางสถานที่ที่ห้ามพก เช่น สนามบิน ใช้เพื่อป้องกันตัวเบื้องต้นเมื่อถูกทำร้ายแบบประชิดตัว
6. ปากกา
ใช้เพื่อป้องกันตัวเบื้องต้นเมื่อถูกทำร้ายแบบประชิดตัว
7. พริกป่น
ใช้สำหรับโยนใส่บริเวณตาของคนร้ายเมื่อถูกประชิดตัว ทำให้คนร้ายเกิดอาการแสบบริเวณดวงตา มีโอกาสให้เราหนีได้ แต่ต้องเก็บในอุปกรณ์ที่ปลอดภัย
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ