การศึกษาในจังหวัดชายแดนใต้: ภารกิจของรัฐและแนวทางที่เหมาะสม

อับดุลสุโก ดินอะ 4 ส.ค. 2568 | อ่านแล้ว 105 ครั้ง


“การจัดการศึกษาที่เหมาะสมในพื้นที่ชายแดนใต้ จึงเป็นภารกิจของรัฐที่ไม่ใช่แค่การสร้างอาคารเรียนหรือแจกจ่ายอุปกรณ์ แต่คือการสร้างระบบที่เข้าใจ ยอมรับ และสนับสนุนความหลากหลายทางวัฒนธรรมและศาสนา เพื่อให้การศึกษาเป็นสะพานเชื่อมโยงผู้คนและสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างยั่งยืน”

การจัดการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้เป็นประเด็นสำคัญที่มีความซับซ้อนและละเอียดอ่อน เนื่องจากต้องคำนึงถึงบริบททางสังคม วัฒนธรรม และศาสนาที่แตกต่างไปจากพื้นที่อื่น บทความนี้จะวิเคราะห์ถึงแนวทางการจัดการศึกษาที่เหมาะสมในพื้นที่ดังกล่าว รวมถึงภารกิจที่รัฐบาลควรดำเนินการ เพื่อให้การศึกษาเป็นเครื่องมือในการสร้างสันติสุขและความมั่นคงอย่างยั่งยืน

ความเข้าใจต่อสถานศึกษาทางศาสนาในบริบทชายแดนใต้

ผู้เขียนเคยได้นำเสนอแนวคิดเรื่องการจัดการศึกษาในชายแดนใต้ผ่านบทความเรื่อง "บุกรัฐสภา เสนอนโยบายการศึกษาชายแดนใต้" ซึ่ง ศ.ดร. กนก วงษ์ตระหง่าน อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ให้ความสนใจและแลกเปลี่ยนมุมมองที่น่าสนใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการทำความเข้าใจสถานศึกษาทางศาสนาในพื้นที่ ซึ่งประกอบด้วย โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม สถาบันศึกษาปอเนาะ และศูนย์อบรมจริยธรรมประจำมัสยิด (ตาดีกา)

จากมุมมองของ ศ.ดร. กนก ได้ชี้ให้เห็นว่า หลักการของศาสนาอิสลามไม่ได้แยกวิชาศาสนา วิชาสามัญ และวิชาชีพออกจากกัน แต่ถือว่าทุกมิติของชีวิตเป็นองค์รวมเดียวกัน ดังนั้น สถานศึกษาเหล่านี้จึงไม่ได้เป็นเพียง "โรงเรียนศาสนา" เท่านั้น แต่เป็นการจัดการศึกษาที่บูรณาการความรู้ในทุกมิติเข้าด้วยกัน ทำให้การแยกวิชาสอนออกจากกันโดยเด็ดขาดจึงเป็นเรื่องที่ไม่สอดคล้องกับหลักการ

ข้อเสนอที่สำคัญ คือ การจัดให้สถาบันศึกษาปอเนาะและศูนย์อบรมจริยธรรมประจำมัสยิด (ตาดีกา) เป็น "โรงเรียนประเภทหนึ่ง" ที่กระทรวงศึกษาธิการต้องให้การสนับสนุนและดูแลรับผิดชอบอย่างเท่าเทียมกับโรงเรียนทั่วไป ซึ่งแนวคิดนี้ยังสามารถนำไปปรับใช้กับโรงเรียนพระปริยัติธรรมของศาสนาพุทธได้อีกด้วย การจัดให้สถานศึกษาเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของระบบการศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเท่าเทียมกันทางการศึกษาได้อย่างแท้จริง

แนวทางการจัดการศึกษาที่เหมาะสมและภารกิจของรัฐ

จากประเด็นข้างต้น การจัดการศึกษาในพื้นที่ชายแดนใต้จึงไม่ใช่แค่เรื่องของการให้เงินอุดหนุน แต่ต้องเป็นการสร้างระบบที่เข้าใจบริบทและตอบสนองความต้องการของคนในพื้นที่อย่างแท้จริง ซึ่งสามารถสรุปภารกิจของรัฐได้ดังนี้

ส่งเสริมอัตลักษณ์และภาษาท้องถิ่น: การจัดการศึกษาต้องส่งเสริมการเรียนรู้ด้านศาสนา ภาษา ศิลปะ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ท้องถิ่น เพื่อสร้างคนที่มีความรู้และคุณธรรมที่เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ พร้อมทั้งสนับสนุนการใช้ ภาษามลายู ซึ่งเป็นภาษาแม่ของประชาชนส่วนใหญ่ และยังเป็นภาษาราชการของประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถสื่อสารและเชื่อมโยงกับนานาชาติได้

กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น: รัฐบาลควรลดอำนาจจากส่วนกลางและกระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามามีบทบาทหลักในการบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพการศึกษา เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างรวดเร็วและตรงจุดมากยิ่งขึ้น

ยกระดับคุณภาพสถานศึกษาทางศาสนา: รัฐต้องเข้ามาดูแลและสนับสนุนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม สถาบันศึกษาปอเนาะ และศูนย์อบรมจริยธรรมประจำมัสยิด (ตาดีกา) อย่างจริงจัง โดยจัดสรรงบประมาณและทรัพยากรให้สอดคล้องกับหลักสูตรและความต้องการของท้องถิ่น

จัดตั้งสภาการศึกษาชายแดนภาคใต้: เพื่อให้การปฏิรูปการศึกษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รัฐควรจัดตั้งสภาการศึกษาชายแดนภาคใต้ที่ประกอบด้วยผู้แทนจากทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันออกแบบและกำหนดทิศทางการศึกษาในพื้นที่ โดยสภาฯ นี้จะทำงานร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการส่วนหน้า เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาที่สอดคล้องกับความต้องการของคนในพื้นที่อย่างแท้จริง

ปฏิรูประบบอุดหนุนการศึกษา: ควรมีการปฏิรูปการอุดหนุนการศึกษาให้ครอบคลุมทุกหลักสูตร ไม่ว่าจะเป็นศาสนา สามัญ อาชีพ หรือการศึกษาทางเลือก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีของกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาสำหรับนักเรียนนักศึกษามุสลิม ควรพิจารณาปรับเปลี่ยนจาก "ดอกเบี้ย" ให้เป็น "ค่าบริการ" เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการศาสนา

การจัดการศึกษาที่เหมาะสมในพื้นที่ชายแดนใต้ จึงเป็นภารกิจของรัฐที่ไม่ใช่แค่การสร้างอาคารเรียนหรือแจกจ่ายอุปกรณ์ แต่คือการสร้างระบบที่เข้าใจ ยอมรับ และสนับสนุนความหลากหลายทางวัฒนธรรมและศาสนา เพื่อให้การศึกษาเป็นสะพานเชื่อมโยงผู้คนและสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างยั่งยืน

อ้างอิง
การจัดการศึกษาชายแดนใต้ ตามทัศนะ “ศ.ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน” 

 

 

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: