นิวยอร์กซิตี้ผลิตขยะ 1,899 ปอนด์ต่อครัวเรือนต่อปี รีไซเคิลได้เพียง 17% ร่างกฎหมาย PRRIA เสนอลดบรรจุภัณฑ์ที่ไม่รีไซเคิลได้ 30% ใน 12 ปี แต่ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมปิโตรเคมีต่อต้านอย่างแรง อ้างข้อกำหนดไม่สามารถปฏิบัติได้ ขยะส่วนใหญ่ถูกส่งไปฝังกลบที่รัฐอื่น ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพชุมชน โดยเฉพาะฝุ่น PM2.5 และก๊าซมีเทนจากหลุมขยะ | ที่มาภาพ: Lauren Dalban/Inside Climate News

ช่วงเดือน มิ.ย. 2025 Inside Climate News รายงานว่า นิวยอร์กซิตี้กำลังเผชิญปัญหาการจัดการขยะที่ร้ายแรง โดยครัวเรือนเฉลี่ยในเมืองผลิตขยะถึง 1,899 ปอนด์ต่อปี 2023 แต่มีเพียง 17% เท่านั้นที่ถูกนำไปรีไซเคิล แม้จะมีมาตรการต่างๆ เช่น การห้ามใช้ถุงพลาสติกในปี 2020

ขยะส่วนใหญ่ของเมืองจะถูกเผาทำลายหรือนำไปฝังกลบที่หลุมขยะขนาดใหญ่ในพื้นที่ต่างๆ รวมถึงรัฐเพนซิลเวเนีย นิวเจอร์ซีย์ และเวอร์จิเนีย

ร่างกฎหมาย "Packaging Reduction and Recycling Infrastructure Act" (PRRIA) ได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภาแล้ว แต่ยังค้างอยู่ในคณะกรรมการสภาผู้แทนราษฎร์ กฎหมายนี้มีเป้าหมายลดบรรจุภัณฑ์ที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ 30% ในระยะเวลา 12 ปี และให้ผู้ผลิตมีส่วนร่วมในการจัดการขยะมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมปิโตรเคมีต่อต้านอย่างแรง โดยอ้างว่ากฎหมายนี้มี "ข้อกำหนดที่ไม่สามารถปฏิบัติได้" สภาธุรกิจรัฐนิวยอร์กออกแถลงการณ์ที่มีธุรกิจเกือบ 100 แห่งลงนาม รวมถึงอุตสาหกรรมพลาสติก โต้แย้งว่าร่างกฎหมายนี้ไม่แตกต่างจากข้อเสนอที่ล้มเหลวในอดีต

การลดบรรจุภัณฑ์ โดยเฉพาะพลาสติก อาจช่วยแก้ปัญหาความปลอดภัยของคนงาน ลดค่าใช้จ่าย และจัดการกับปัญหาหนูที่มากินขยะริมทางเท้า

ปัจจุบันเมืองมีสถานีขนถ่ายขยะทางทะเล 6 แห่งและสถานีขนถ่ายบนบกหลายแห่ง ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในชุมชนที่มีรายได้น้อยและผู้คนผิวสี การขนส่งขยะด้วยรถบรรทุกยังส่งผลต่อมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่น PM2.5 ที่เชื่อมโยงกับโรคหอบหืดในเด็ก โรคมะเร็ง และโรคหัวใจ

ขยะจากนิวยอร์กซิตี้ส่วนหนึ่งถูกส่งไปฝังกลบที่หลุมขยะ Seneca Meadows ในภูมิภาค Finger Lakes ซึ่งมีความสูงเกือบเท่าเทพีเสรีภาพ หลุมขยะแห่งนี้รับขยะจากนิวยอร์กซิตี้ถึง 24% โดยเฉพาะจากควีนส์และบรองซ์

ชาวบ้านในพื้นที่ต้องทนกับกลิ่นเหม็นจนเด็กๆ ไม่สามารถเล่นกลางแจ้งได้ และนักท่องเที่ยวที่มาเยือนไร่องุ่นในบางวันก็ได้กลิ่นไม่พึงประสงค์ หลุมขยะยังปล่อยก๊าซมีเทนซึ่งมีผลต่อภาวะโลกร้อนมากกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 86 เท่า

ร่างกฎหมายนี้จึงถือเป็นความหวังสำคัญในการแก้ปัญหาขยะที่ส่งผลกระทบต่อทั้งนิวยอร์กและพื้นที่อื่นๆ ที่รับขยะจากมหานครแห่งนี้