ครึ่งแรกปี 2568 พบว่า ธุรกิจโรงแรมชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) เป็นผลมาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยลดลงร้อยละ -4.7 แต่อัตราการเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมทั่วประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 60.8 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ร้อยละ 59.1 สะท้อนความต้องการใช้บริการที่พักยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จัดทำบทวิเคราะห์ เรื่อง “สถานการณ์ธุรกิจโรงแรม ครึ่งแรกปี 2568” พบว่า ธุรกิจโรงแรมชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) เป็นผลมาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยลดลงร้อยละ -4.7 แต่อัตราการเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมทั่วประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 60.8 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ร้อยละ 59.1 สะท้อนความต้องการใช้บริการที่พักยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ด้านอุปทาน พบว่ามีการชะลอตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยจำนวนโรงแรมที่ยื่นขออนุญาตเปิดใหม่ รวมถึงจำนวนห้องพักใหม่ลดลงร้อยละ -34.6 และร้อยละ -32.2 ตามลำดับ ส่งผลให้จำนวนโรงแรมที่จดทะเบียนประกอบธุรกิจสะสมทั่วประเทศลดลงร้อยละ -3.7 และจำนวนห้องพักสะสมลดลงร้อยละ -1.8 อย่างไรก็ตาม แนวโน้มอุปทานในอนาคตมีสัญญาณการขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตก่อสร้างโรงแรมปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 29.6 โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ – ปริมณฑลที่มีการขออนุญาตก่อสร้างเพิ่มขึ้นมากถึงร้อยละ 230.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) เนื่องจากในเขตกรุงเทพฯ – ปริมณฑล เป็นศูนย์กลางธุรกิจและการท่องเที่ยวมีความสามารถในการดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง
หากพิจารณาจำนวนห้องพักในโรงแรมที่เปิดให้บริการสะสม แยกตามจังหวัด พบว่า 10 อันดับจังหวัดแรกที่มีห้องพักมากที่สุด ณ ครึ่งแรกปี 2568 มีสัดส่วนจำนวนห้องพักรวมกันร้อยละ 60.5 ของจำนวนห้องพักทั้งหมด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี ภูเก็ต เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี กระบี่ สงขลา นครราชสีมา ระยอง และเชียงราย ใน 10 อันดับนี้ พบว่า ระยองมีจำนวนห้องพักเพิ่มขึ้นมากที่สุดร้อยละ 5.9 ขณะที่จังหวัดที่มีห้องพักลดลงมากที่สุด คือ กระบี่ ลดลงร้อยละ -9.9 ส่วนจังหวัดอื่น ๆ มีจำนวนลดลงร้อยละ -2.6 เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)
สำหรับอัตราการเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรม ณ ครึ่งแรกปี 2568 อัตราการเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมทั่วประเทศอยู่ที่ร้อยละ 60.8 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ที่มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 59.1 เมื่อแบ่งเป็นรายภาค พบว่า ภาคใต้มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยมากที่สุดร้อยละ 70.9 รองลงมา ได้แก่ ภาคตะวันตกร้อยละ 65.2 ภาคตะวันออกร้อยละ 63.1 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือร้อยละ 59.0 กรุงเทพฯ - ปริมณฑล ร้อยละ 56.2 ภาคเหนือร้อยละ 55.5 และภาคกลางร้อยละ 55.1 ตามลำดับ ซึ่งเกือบทุกภาคมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม มีเพียงกรุงเทพฯ - ปริมณฑลที่มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยลดลงร้อยละ -0.7 สะท้อนว่า อุปสงค์หรือจำนวนผู้เข้าพัก ลดลงสวนทางกับจำนวนห้องพักสะสมที่เพิ่มขึ้นในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ส่งผลให้การแข่งขันในตลาดที่พักของกรุงเทพฯ และปริมณฑลสูงขึ้น และเป็นความท้าทายที่ผู้ประกอบการต้องวางแผนและปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับความเสี่ยงจากภาวะอุปทานส่วนเกิน
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ