สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ เผย 8 ปี ดันเยาวชนไทยสู่ระบบนวัตกรรมกว่า 1 แสนราย เปิดพื้นที่ปล่อยของให้ “นวัตกรรุ่นใหม่” โชว์ 22 นวัตกรรมสร้างโลกยั่งยืน ใน “STEAM4INNOVATOR’s Day 9.9” พร้อมหนุนภาครัฐ การศึกษา ธุรกิจ สร้างพื้นที่เพื่อนวัตกรแห่งอนาคต
ช่วงต้นเดือนกันยายน 2568 สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ได้เดินหน้าภารกิจสร้างนวัตกรรุ่นเยาว์ พร้อมเสริมทักษะด้านนวัตกรรมครบวงจร ตั้งแต่การคิดเชิงสร้างสรรค์ การแก้ปัญหาเชิงระบบ ไปจนถึงการสร้างโมเดลธุรกิจ ผ่านโครงการSTEAM4INNOVATOR ที่ใช้แนวคิด ‘เรียนรู้จากการลงมือทำจริง’ และ ‘บูรณาการศาสตร์STEAM’ เพื่อปูพื้นฐานสู่การเป็นผู้ประกอบการนวัตกรรมในอนาคต พร้อมจัดงาน ‘STEAM4INNOVATOR’s Day 9.9’ พื้นที่โชว์ชองสุดเข้มข้นจากนวัตกรรุ่นเยาว์ที่ผ่านกระบวนการพัฒนาทักษะ
การสร้างนวัตกรรมแบบ STEAM4INNOVATOR ด้วย 22 ผลงานไอเดียเปลี่ยนโลก ทั้งนวัตกรรมสายกรีนและสายสุขภาพ ที่สะท้อนพลังของ Gen Z ในฐานะ ‘นวัตกรรุ่นใหม่’ ที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมแห่งนวัตกรรม พร้อมร่วมกิจกรรมเวิร์กช็อปโซน ‘ห้องปล่อยของ’ จาก ‘STEAM4INNOVATOR Center’ ทั้ง 19 แห่ง ที่เปิดโอกาสให้เยาวชนและผู้สนใจได้เรียนรู้ทักษะการเป็นนวัตกรผ่านกระบวนการ STEAM4INNOVATOR
ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ NIA กล่าวว่า ปัจจุบันกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z ไม่ได้เป็นเพียงผู้ใช้งานเทคโนโลยี แต่เป็นผู้ที่เติบโตมาในโลกของดิจิทัลและ AI ทำให้กลุ่มคนเหล่านี้มีความได้เปรียบในมุมมองการสร้างสรรค์และแก้ไขปัญหาด้วยนวัตกรรม รวมถึงค่านิยมในการสร้างคุณค่าทางสังคม ทำให้เส้นทางอาชีพในฝันของคนเจเนอเรชันนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในกรอบงานแบบเดิม แต่ขยายไปสู่อาชีพที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีขั้นสูง ความยั่งยืน และการเป็นผู้ประกอบการ ดังนั้น คนรุ่นใหม่จึงต้องการพื้นที่ทดลองและต่อยอดผลงานนวัตกรรมมากขึ้น NIA จึงมุ่งส่งเสริมให้เยาวชนไทยเติบโตในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ทดลอง และสร้างนวัตกรรม ผ่านโครงการ STEAM4INNOVATOR ที่ออกแบบมาเพื่อ ‘ปลุกพลังนวัตกรรุ่นใหม่’ ให้มีทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 อย่างรอบด้าน พร้อมเสริมทักษะการคิดเชิงสร้างสรรค์ การแก้ปัญหา และการสร้างโมเดลธุรกิจนวัตกรรม
ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา โครงการได้พัฒนาและวางรากฐานให้ทั้งเยาวชน ครูอาจารย์ ผู้ปกครอง และ สถาบันการศึกษาจนเกิดผลสำเร็จในการสร้างความตระหนักและแรงบันดาลใจให้เยาวชนกว่า 100,000 คน และจำนวนกว่า 1,600 คน ได้รับการพัฒนาศักยภาพที่เข้มข้นจากโครงการสำคัญ เช่น Thailand Innovation Awards, The Health Promotion Innovation Playground, Innovator Journey, STEAM4INNOVATOR Achievement Program จนสามารถก่อตั้งบริษัทเพื่อดำเนินธุรกิจจริงได้ไม่ต่ำกว่า 15 แห่ง มีการออกแบบการเรียนรู้ในกลุ่มครูผู้สร้างนวัตกรเพื่อการขยายผลมากกว่า1,200 คน ในสถาบันการศึกษามากกว่า 65 แห่ง ปัจจุบันเกิดศูนย์เครือข่าย STEAM4INNOVATOR CENTER ในกลุ่มโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา สถาบันอาชีวศึกษา และมหาวิทยาลัย 36 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้คนรุ่นใหม่มีทักษะนวัตกร และได้ดำเนินการวางโครงสร้างพื้นฐานและแผนงานที่มุ่งขยายผลให้ทั่วถึงในระดับประเทศอย่างเป็นระบบ โครงการ STEAM4INNOVATOR ไม่เพียงเป็นเวทีให้เยาวชนได้ฝึกคิด ฝึกทดลอง แต่ยังเป็นการปูทางสู่การสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมเยาวชนไทยที่แข็งแกร่ง เพื่อสร้างกำลังคนด้านนวัตกรรมที่ตอบโจทย์อนาคต
ดร.กริชผกา กล่าวเพิ่มเติมว่า NIA จัดงาน “STEAM4INNOVATOR’s Day 9.9” ขึ้น เพื่อให้ครู อาจารย์ นักศึกษา รวมถึงบุคคลภายนอกที่สนใจแลกเปลี่ยนประสบการณ์การสร้างห้องเรียนนวัตกรรม พร้อมโชว์ศักยภาพและผลสำเร็จการพัฒนาและสร้างสรรค์นวัตกรรมจากนวัตกร Gen Zจำนวน 22 นวัตกรรม ครอบคลุมกลุ่มการสร้างเสริมสุขภาพและกลุ่มธุรกิจสีเขียว ซึ่งนับเป็นกลุ่มที่คนรุ่นใหม่สนใจและต้องการขับเคลื่อนอย่างจริงจัง เช่น กลุ่มการสร้างเสริมสุขภาพได้แก่ Showsmind หน้ากากอนามัยแบบใส (ป้องกันฝุ่น) สำหรับเด็ก สามจักรพรรดิมรณะแพลตฟอร์มพื้นที่ปลอดภัยทางใจและเติบโตไปพร้อมกับผู้ใช้งาน VapeVerse WaveWorldแพลตฟอร์มเกม VR สร้างภูมิคุ้มกันบุหรี่ไฟฟ้าให้เยาวชน Bokbaek บอร์ดเกมสำหรับครอบครัวที่ช่วยเปิดบทสนทนาระหว่างพ่อแม่กับลูกเพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยทางอารมณ์ และกลุ่มธุรกิจสีเขียวได้แก่ ระบบติดตามค่าฝุ่นละอองในไซต์งานก่อสร้างแบบเรียลไทม์ผ่านเว็บไซต์ การพัฒนาระบบบำบัดน้ำเสียจากแผนกไตเทียม WASTE-D Ecosystems นวัตกรรมจัดการขยะชุมชนเพื่อความยั่งยืน เป็นต้น
โดยยังมีกิจกรรมเวิร์กช็อปเสริมทักษะ และเครื่องมือสร้างนวัตกรรุ่นเยาว์จากเครือข่ายครู อาจารย์ ใน “STEAM4INNOVATOR Center” ทั้ง 19 แห่ง ในพื้นที่ ‘ห้องปล่อยของ’ ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยจุดประกายให้เด็กไทยกล้าคิด กล้าทำ แต่ยังเป็นการสร้างฐานกำลังคนด้านนวัตกรรมที่มีคุณภาพ เพื่อพาประเทศไทยก้าวสู่การเป็น ‘ชาตินวัตกรรม’ ตลอดจนเป็นแนวทางเชิงปฏิบัติสำหรับ ภาคการศึกษากับโอกาสปรับเปลี่ยนหลักสูตรสู่การเรียนรู้เชิงทักษะ ลงทุนในเทคโนโลยีการศึกษาและพื้นที่สร้างสรรค์ และส่งเสริมการทำงานร่วมกับโลกแห่งความเป็นจริง ภาคธุรกิจกับการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยืดหยุ่นให้ความสำคัญกับการออกแบบระบบการทำงานที่สามารถเรียนรู้จากความผิดพลาด และภาครัฐ เช่น NIA กับการมีนโยบายที่ส่งเสริมการกระจายตัวของนวัตกรรมสู่คนแต่ละช่วงวัย ลดอุปสรรคด้านโครงสร้างพื้นฐาน และสร้างกลไกการสนับสนุนที่เชื่อมโยงทุกภาคส่วนเข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ
นอกจากนี้ ยังมีผลสำเร็จที่เกิดขึ้นภายในโครงการ STEAM4INNOVATOR อีกหลากหลายโครงการ เช่น รางวัลนวัตกรรมแห่งประเทศไทย ที่ NIA จัดร่วมกับสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ และความร่วมมือกับหน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนให้สามารถต่อยอดผลงานไปในเชิงธุรกิจนวัตกรรมที่มีศักยภาพออกสู่ตลาดหรือสร้างคุณค่าทางสังคมได้จริง การพัฒนาพื้นที่แห่งนวัตกรรมเพื่อสนับสนุนการสร้างสรรค์นวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยใช้หลักคิดการมีสุขภาพที่ดี "สร้าง นำ ซ่อม" ในการสร้างสรรค์นวัตกรรม ร่วมกับ 10 มหาวิทยาลัยที่เป็นเครือข่ายศูนย์สร้างนวัตกรรุ่นใหม่ ครอบคลุม 4 ภูมิภาค การพัฒนาความสามารถและความร่วมมือด้านนวัตกรรมในกลุ่มเครือข่ายเพื่อการพัฒนาเยาวชน ต้นแบบในการต่อยอดและพัฒนาระบบการปฏิบัติงานแบบสหกิจศึกษาผนวกการเสริมทักษะนวัตกรแบบเข้มข้น ภายใต้แนวคิดเส้นทางนวัตกรรุ่นใหม่...สู่การสร้างธุรกิจสีเขียว และปิดท้ายกับกิจกรรมการพัฒนานวัตกรรุ่นเยาว์ด้วยหลักสูตร STEAM4INNOVATOR ที่ดำเนินการร่วมกับเครือข่ายองค์กรต่างๆ เช่น สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ และ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย เป็นต้น
“จากผลสำเร็จในปีนี้ NIA จึงจัดตั้ง ‘กลุ่มงานพัฒนานวัตกรรุ่นเยาว์’ อย่างเป็นทางการ เพื่อให้การทำงานมีโครงสร้างพื้นฐานและแผนงานที่เป็นระบบ สามารถขยายผลในระดับประเทศได้อย่างเข้มแข็ง โดยมีกลยุทธ์การดำเนินการ 2 มิติ คือ ด้านการศึกษา มุ่งเน้นการพัฒนาเยาวชน ครู และศูนย์สร้างนวัตกรรุ่นใหม่ในภูมิภาค ควบคู่กับการทำงานเชิงนโยบาย และด้านอาชีพนวัตกรมุ่งเน้นการพัฒนาระบบอาชีพด้านนวัตกรรม ที่เกี่ยวกับการรับรองระดับความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถด้านนวัตกรรม และการสร้างเกณฑ์มาตรฐานอาชีพนวัตกร โดยปี 2569 NIA จะมุ่งขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรุ่นเยาว์
โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการขยายผลอย่างกว้างขวางทั้งในและนอกระบบการศึกษา เพื่อให้เกิดการบ่มเพาะเยาวชนอย่างต่อเนื่องและครอบคลุมมากขึ้น ผ่าน 2 แนวทางหลัก ได้แก่ 1. Education & Occupation System การทำงานร่วมกับบุคคลและองค์กรพันธมิตรทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบการศึกษาและการสร้างงานด้านนวัตกรรมในระดับประเทศ สร้างโอกาสให้เยาวชนสามารถต่อยอดไอเดียไปสู่การประกอบอาชีพจริง และ 2. Learning Management System (LMS) การพัฒนาองค์ความรู้และเครื่องมือการเรียนรู้ที่ทันสมัย โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยจัดการเรียนการสอนอย่างเป็นระบบ สามารถรองรับผู้เรียนได้จำนวนมาก เปิดโอกาสให้เยาวชนเรียนรู้ได้ด้วยตนเองทุกที่ทุกเวลา และต่อยอดไปสู่การสร้างนวัตกรรมจริงได้อย่างยั่งยืน” ดร.กริชผกา กล่าวสรุป
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ