กรมพัฒนาธุรกิจการค้าลงพื้นที่สมุทรปราการ ตรวจเข้มธุรกิจค้าเหล็กต่างชาติ หวั่น​เข้าข่ายนอมินี​ พบต่างชาติไม่มีใบอนุญาตทำงาน–เครื่องชั่งไม่ได้รับรองมาตรฐาน ดำเนินคดีปรับ 20,000 บาท อธิบดี "พูนพงษ์" ลั่นเอาผิดถึงที่สุด ย้ำปิดช่องธุรกิจอำพรางต่างชาติ

ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2568 นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้นำทีมหน่วยบังคับใช้กฎหมายลงพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ตรวจสอบธุรกิจค้าเหล็กต่างชาติ 2 ราย หลังได้รับร้องเรียนว่ามีพฤติการณ์อาจเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายและเป็นนอมินี โดยได้มอบหมายให้ หม่อมหลวงภู่ทอง ทองใหญ่ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า นำทีมกองป้องกันและปราบปรามธุรกิจผิดกฎหมาย สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสมุทรปราการ ร่วมกับ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI), กรมการค้าภายใน และ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.)

ผลการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ากรรมการของบริษัททั้งสองแห่งเป็นชาวต่างชาติ 2 ราย ไม่มีใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าว (Work Permit) โดยให้ข้อมูลผ่านล่ามว่าประกอบธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสี มียอดขายในเดือนกันยายน 2568 มูลค่ากว่า 58 ล้านบาท ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นคนไทยของทั้งสองบริษัทมีความเชื่อมโยงกันและถือหุ้นในหลายบริษัท ซึ่งกรมฯ จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อส่งดำเนินคดีตามกฎหมายหากพบเข้าข่ายความผิด

กองชั่งตวงวัด กรมการค้าภายใน ตรวจพบเครื่องชั่งดิจิทัลขนาด 5,000 กิโลกรัม ที่ไม่ได้รับการตรวจสอบและรับรองจากสำนักงานกลางชั่งตวงวัด จึงดำเนินการ เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 20,000 บาท และยึดเครื่องชั่งส่งสำนักงานกลางชั่งตวงวัดเพื่อตรวจสอบเพิ่มเติม

กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ร่วมบันทึกถ้อยคำกรรมการชาวจีน พร้อมเรียกเอกสารการซื้อขายของบริษัท พบข้อพิรุธหลายประการที่อาจเข้าข่ายนอมินี และเตรียมขยายผลในส่วนที่เกี่ยวข้อง ขณะที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ตรวจสอบเหล็กแผ่นเคลือบอะลูมิเนียมผสมสังกะสี ยี่ห้อ Zhongpu เบื้องต้นยังไม่พบความผิด แต่จะเรียกบริษัทเข้าชี้แจงข้อเท็จจริงอีกครั้ง

หลังจากนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะสรุปข้อมูลเชิงลึกและส่งต่อหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย เพื่อดำเนินการเอาผิดจนถึงที่สุด หากพบว่าธุรกิจดังกล่าวเข้าข่ายนอมินี พร้อมย้ำว่า การถือหุ้นแทนคนต่างชาติเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย กระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ของประเทศ

ทั้งนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเปิดช่องทางให้ประชาชนร่วมแจ้งเบาะแสธุรกิจเข้าข่ายนอมินี ผ่านเว็บไซต์ www.dbd.go.th ในหัวข้อ “รับเรื่องร้องเรียนปัญหานอมินี” เพื่อร่วมสร้างระบบการค้าที่โปร่งใสและเป็นธรรม