นักวิจัยห่วง ปริมาณขยะพลาสติกในมหาสมุทรอาจพุ่ง 3 เท่าภายในปี 2040

กองบรรณาธิการ TCIJ 15 เม.ย. 2566 | อ่านแล้ว 9621 ครั้ง

นักวิจัยห่วง ปริมาณขยะพลาสติกในมหาสมุทรอาจพุ่ง 3 เท่าภายในปี 2040

ผลการวิจัยที่เผยแพร่ออกมาเมื่อไม่นานมานี้ระบุว่า ปริมาณพลาสติกที่เข้าไปสู่มหาสมุทรของต่าง ๆ โลกเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ปี 2005 และอาจเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าภายในปี 2040 หากไม่มีการดำเนินการใด ๆ เพิ่มเติม

VOA รายงานเมื่อช่วงต้นเดือน เม.ย. 2023 ว่าผลการวิจัยที่ได้รับการตรวจสอบโดยสถาบันวิจัยต่าง ๆ ภายใต้การนำของสถาบัน 5 Gyres Institute ซึ่งเป็นองค์กรแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ ที่รณรงค์ให้มีการลดมลภาวะจากพลาสติกเผยว่า น่าจะมีอนุภาคพลาสติกประมาณ 171 ล้านล้านชิ้นล่องลอยอยู่ในท้องมหาสมุทรภายเมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ พลาสติกที่ก่อมลพิษในทะเลอาจเพิ่มขึ้น 2.6 เท่าภายในปี 2040 หากไม่มีการนำนโยบายระดับโลกที่มีผลผูกพันทางกฎหมายมาใช้

การศึกษานี้ได้พิจารณาข้อมูลมลพิษพลาสติกในระดับพื้นผิวที่รวบรวมโดยสถานีมหาสมุทร 11,777 แห่งในพื้นที่ทะเลหลัก 6 แห่ง โดยครอบคลุมช่วงเวลาตั้งแต่ปี 1979 จนถึง 2019

มาร์คัส เอริคเซน (Marcus Eriksen) ผู้ร่วมก่อตั้งสถาบัน 5 Gyres Group กล่าวในการแถลงการณ์ว่า พวกเขาได้พบแนวโน้มที่น่าตกใจของการเติบโตแบบทวีคูณของไมโครพลาสติกในมหาสมุทรทั่วโลก ตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา และว่า “เราจำเป็นต้องมีสนธิสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยมลพิษพลาสติกที่มีผลผูกพันทางกฎหมายอย่างเข้มงวด มายุติปัญหาที่ต้นเหตุ”

ไมโครพลาสติกนั้นเป็นอันตรายต่อมหาสมุทรมากเป็นพิเศษ เพราะไม่เพียงแต่จะปนเปื้อนในน้ำ แต่ยังทำลายอวัยวะภายในของสัตว์ทะเลซึ่งเข้าใจผิดคิดว่า พลาสติกเป็นอาหารของพวกมันอีกด้วย

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า ที่ผ่านมา มีการประเมินระดับมลพิษจากพลาสติกทางทะเลในมหาสมุทรต่ำกว่าเป็นจริง

พอล ฮาร์วีย์ (Paul Harvey) นักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านพลาสติกจาก Environmental Science Solutions ซึ่งเป็นองค์กรของออสเตรเลียซึ่งมุ่งทำงานด้านการลดมลพิษกล่าวว่า "ตัวเลขในงานวิจัยชิ้นใหม่นี้เป็นปรากฏการณ์ที่น่าทึ่งและเกือบจะยากเกินกว่าที่จะเข้าใจด้วย"

องค์การสหประชาชาติได้เริ่มการเจรจาข้อตกลงเพื่อจัดการกับมลพิษพลาสติกในการประชุมที่อุรุกวัยในเดือนพฤศจิกายนของปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมายที่จะร่างสนธิสัญญาที่มีผลผูกพันทางกฎหมายภายในสิ้นปีหน้า

กรีนพีซ ซึ่งเป็นกลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า หากไม่มีสนธิสัญญาระดับโลกที่แข็งแกร่ง การผลิตพลาสติกอาจเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าภายใน 10 ถึง 15 ปีข้างหน้า และอาจเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่าภายในปี 2050 ได้

และนอกจากความคืบหน้าในการผลักดันข้อตกลงข้างต้นแล้ว มีสนธิสัญญาสากลอีกหนึ่งฉบับที่มีเนื้อหาว่าด้วยการปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพในทะเลหลวงของโลก ซึ่งเพิ่งจะได้รับความเห็นชอบจากนานาชาติไปเมื่อไม่นานมานี้ด้วย

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: