ผนึกพลังพระนิสิตเมียนมาหนุนช่วย ‘แรงงานเพื่อนบ้าน’ สู้โควิดระลอกใหม่

กองบรรณาธิการ TCIJ 25 ม.ค. 2564 | อ่านแล้ว 1320 ครั้ง

ผนึกพลังพระนิสิตเมียนมาหนุนช่วย ‘แรงงานเพื่อนบ้าน’ สู้โควิดระลอกใหม่

พระสงฆ์ ผนึกพลังองค์กรสุขภาพ-สังคม-สื่อสาร ร่วมวางแนวทางความร่วมมือช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติ หนุนให้ ‘พระนิสิตชาวเมียนมา’ สื่อสารสร้างความรู้ความเข้าใจ และดูแลคุณภาพชีวิตกลุ่มแรงงานข้ามชาติ - ส่วน สธ. ระดมทีมทั่วประเทศตรวจเชิงรุกใน ‘สมุทรสาคร’ คาดอาจพบผู้ติดเชื้อหลักพันต่อวัน วอน ปชช. อย่าตื่นตระหนก - อยู่ในพื้นที่ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด

วันที่ 25 ม.ค. 2564 คณะสงฆ์ฝ่ายปกครองและฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคม มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ไทยพีบีเอส) เครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชน และสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) จับมือหารือแนวทางความร่วมมือระหว่างองค์กรศาสนา หน่วยงานด้านสุขภาพ สังคมและสื่อสาร ในการช่วยเหลือให้กำลังใจและหนุนเสริมให้พระนิสิตชาวเมียนมาร์ในสถาบันการศึกษาสงฆ์ ส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค พร้อมดูแลคุณภาพชีวิตกลุ่มแรงงานเพื่อนบ้านในพื้นที่เสี่ยงจังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดอื่นๆ

นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคโควิด-19 ว่า ขณะนี้อยู่ในระดับคงตัว โดยยังมีการคุมเข้มในพื้นที่เสี่ยง จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดอ่างทอง และพื้นที่ในภาคตะวันออก ซึ่งวันนี้ (25 ม.ค.) เป็นวันแรกที่บุคลากรด้านสาธารณสุขจากทั่วประเทศ ได้ระดมกำลังกันลงพื้นที่ตรวจเชิงรุกในจังหวัดสมุทรสาคร หรือคิดเป็นประมาณสามเท่าของทีมงานเดิมที่มีอยู่ ซึ่งวางเป้าไว้ว่าจะเผด็จศึกโควิด-19 ในสมุทรสาครได้ภายใน 1 สัปดาห์

“จากการตรวจเชิงรุก อาจทำให้ผลตัวเลขที่ออกมามียอดผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นวันละหลักพัน ดังนั้น ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และช่วยกันสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้คนในพื้นที่สมุทรสาคร ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการสำคัญที่สุด คือ ไม่สัญจร ไม่หลบหนี ไม่ย้ายที่อยู่ หากเคลื่อนไปไหนก็เท่ากับเอาโรคไปด้วย ต้องอยู่นิ่งๆ รอทีมเจ้าหน้าที่ไปตรวจ เพื่อให้การตรวจเชิงรุกเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเมื่อตรวจพบแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติใดก็ตาม ทุกคนจะได้รับการดูแลช่วยเหลือเหมือนกันทั้งหมด ที่สุดเราก็จะสามารถป้องกันการแพร่ระบาดได้”

พระเทพเวที, รศ.ดร. รองอธิการฝ่ายกิจการนิสิต มจร. กล่าวถึงบทบาทของพระนิสิตเมียนมาร์ว่า พันธกิจสำคัญหนึ่งของพระสงฆ์คือ การส่งเสริมพระพุทธศาสนาและบริการสังคม ซึ่งทรัพยากรสำคัญที่มีอยู่ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ระบาด คือ พระนิสิตชาวเมียนมาร์ จำนวน 560 รูป ที่จะช่วยถ่ายทอดสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับชาวเมียนมาร์ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ไม่ตื่นตระหนัก ไม่หวาดกลัว สู่การส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคและดูแลคุณภาพชีวิตกลุ่มแรงงานเพื่อนบ้านได้

“การควบคุมสถานการณ์ขณะนี้ พระสงฆ์ยังไม่สามารถลงพื้นที่ช่วยเหลือได้ แต่การสื่อสารประชาสัมพันธ์นั้นเป็นหัวใจสำคัญ ยิ่งพระนิสิตเมียนมาร์สามารถสื่อสารสร้างความรู้ความเข้าใจให้ชาวเมียนมาร์ได้มากเท่าไร การรับมือและป้องกันโรคระบาดโควิดก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น และน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น พระสงฆ์ก็สามารถลงพื้นที่ช่วยเยียวยาให้กำลังใจต่อไป”

ด้าน นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า การร่วมมือกันครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ พ.ศ.2560 ภายใต้การทำงานของคณะสงฆ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเป็นไปตามแผนงาน “รวมพลังพลเมืองตื่นรู้ ช่วยชาติสู้ภัยโควิด-19 ระลอกใหม่” ที่ สช. ปฏิบัติการร่วมกับองค์กรภาคี ซึ่งกลไกสำคัญที่ได้จากหารือครั้งนี้คือ 1) มีผู้แทนประสานงานคณะสงฆ์ หน่วยงาน และประชาชน 2) ถวายความรู้แด่พระนิสิตเมียนมาให้เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจต่อได้ และสุดท้ายคือ สร้างเครือข่ายการสื่อสารระหว่างพระนิสิต ประชาสังคม และประชาชนในพื้นที่

“แม้ว่ารัฐบาลและหน่วยงานทุกภาคส่วนได้ทำงานภายใต้กลยุทธ์การทำงานร่วมกัน ทำให้สถานการณ์โรคระบาดคลี่คลายลง แต่ในพื้นที่ยังมีปัญหาเรื่องกำลังใจและต้องการความช่วยเหลือ ฟื้นฟูจิตใจ สังคม และเศรษฐกิจ สช. จะทำหน้าที่สร้างพื้นที่กลางในการหารือแลกเปลี่ยนแนวทางและความคิดเห็น เพื่อนำไปสู่การยกระดับเป็นข้อเสนอสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม หากมีการรวมพลังกันก็จะทำให้มีแนวทางในการช่วยเหลือและทำให้ประชาชนผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปได้”

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: