แอมเนสตี้เรียกร้องประชาคมระหว่างประเทศร่วมยุติความขัดแย้งอิสราเอล-ปาเลสไตน์

กองบรรณาธิการ TCIJ 14 พ.ค. 2564 | อ่านแล้ว 1603 ครั้ง

แอมเนสตี้เรียกร้องประชาคมระหว่างประเทศร่วมยุติความขัดแย้งอิสราเอล-ปาเลสไตน์

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลออกแถลงการณ์ระบุว่า กองกำลังอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ ในฉนวนกาซา ต้องไม่ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศซ้ำอีก ซึ่งนำไปสู่การสังหารและทำให้พลเรือนได้รับบาดเจ็บ และทำลายบ้านเรือนและโครงสร้างพื้นฐาน แบบเดียวกับสงครามที่เคยเกิดขึ้นหลายครั้งก่อนหน้านี้

นับแต่วันที่ 10 พ.ค. 2564 กลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ได้ยิงจรวดกว่า 1,500 ลูกเข้าไปยังเขตพลเรือนตอนกลางของอิสราเอล และตามเมืองต่าง ๆ ใกล้กับพรมแดนฉนวนกาซา ส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ กองกำลังอิสราเอลได้โจมตีทางอากาศเพื่อสังหาร และทำให้พลเรือนในฉนวนกาซาได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังสร้างความเสียหายและทำลายตึกซึ่งเป็นอาคารที่พักอาศัยอย่างน้อยสองแห่ง ซึ่งเป็นที่อยู่ของครอบครัวชาวปาเลสไตน์หลายครอบครัว และเป็นตึกสำนักงานอีกตึกหนึ่งในฉนวนกาซา โดยเป็นการโจมตีอย่างมีเป้าหมาย ที่มีลักษณะเป็นการลงโทษแบบกลุ่มต่อประชากรชาวปาเลสไตน์ทั้งหมด ความรุนแรงครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 53 คน รวมทั้งเด็ก 14 คนในฉนวนกาซา และเจ็ดคนในอิสราเอล

ซาเลห์ ฮีกาซี รองผู้อำนวยการภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเผยว่า การขัดแย้งกันด้วยอาวุธที่รุนแรงขึ้นระหว่างอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ทำให้กังวลว่าจะมีการนองเลือดของพลเรือนที่เพิ่มขึ้นอีกมาก รวมทั้งการทำลายบ้านเรือนและโครงสร้างพื้นฐานในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ทุกฝ่ายในความขัดแย้งครั้งนี้ ต่างมีพันธกรณีอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดที่จะต้องคุ้มครองพลเรือน พวกเขาต้องรำลึกว่า ในปัจจุบันศาลอาญาระหว่างประเทศอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อมูลอย่างเต็มที่ และพวกเขาต้องไม่คิดเอาเองว่า จะสามารถลอยนวลพ้นผิดจากการละเมิดแบบที่ผ่าน ๆ มาได้

“ความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นครั้งนี้ มีลักษณะคล้ายกับการปะทะกันอย่างน่ากลัวที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 2551, 2555 และ 2557 อันเป็นเหตุให้พลเรือนต้องเป็นฝ่ายรับเคราะห์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากและการทำลายทรัพย์สินเกิดขึ้นในฉนวนกาซา ซึ่งเป็นดินแดนที่ถูกปิดกั้นอย่างผิดกฎหมาย และมีลักษณะเป็นการลงโทษแบบเหมารวมตั้งแต่ปี 2550

“ทุกฝ่ายในความขัดแย้งครั้งนี้ ต่างมีพันธกรณีอย่างเบ็ดเสร็จที่จะต้องคุ้มคอรงพลเรือน” ซาเลห์ ฮีกาซี แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล

“ทั้งกองกำลังอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ ได้ก่ออาชญากรรมสงคราม และการละเมิดอย่างอื่นโดยไม่ต้องรับผิดมาก่อน อิสราเอลมีสถิติที่น่าเศร้าใจจากการโจมตีอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมายในฉนวนกาซา ทั้งการสังหารและทำให้พลเรือนได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งการก่ออาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ กลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ก็ได้ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศโดยไม่ต้องรับผิดเช่นกัน”

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลได้ประณามกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์อย่างต่อเนื่อง จากการยิงจรวดโดยไม่เลือกเป้าหมาย

“การยิงจรวดที่ขาดเป้าหมายอันแม่นยำไปยังเขตที่ประชาชนอาศัยอยู่ อาจถือเป็นอาชญากรรมสงคราม และทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตพลเรือนทั้งสองฝ่าย ทั้งในอิสราเอล/พรมแดนฉนวนกาซา” ซาเลห์ ฮีกาซีกล่าว

ในอิสราเอล ชาวปาเลสไตน์วัย 50 ปี ซึ่งเป็นพลเมืองของอิสราเอล กับลูกสาววัย 15 ปี ถูกจรวดยิงใส่จนเสียชีวิตในหมู่บ้านโดห์มอชซึ่งไม่มีสถานะตามกฎหมาย โดยตั้งอยู่ด้านนอกของเมืองลิดดา ทางตอนกลางของอิสราเอล ชุมชนแห่งนี้ไม่มีทางเชื่อมต่อไปยังอาคารหลบภัย และไม่มีการติดตั้งสัญญาณเตือนผ่านระบบไซเรน กรณีที่มีการยิงจรวดมาจากฉนวนกาซา

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: