นายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย เผยว่ารัฐบาลอินโดนีเซียมีแผนที่จะยกเลิกการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ หลังจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนพฤษภาคม ซึ่งการเพิ่มขึ้นดังกล่าวทำใหรัฐบาลอินโดนีเซียมีมติเพิ่มเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังโดยเฉพาะในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม โดยให้บังคับใช้ข้อจำกัดต่างๆ เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัส COVID-19 หลังมีรายงานว่าประชาชนที่อาศัยในกรุงจาการ์ตาเตรียมที่เดินทางกลับบ้านเป็นจำนวนมากในช่วงเทศกาลวันตรุษ (วันอีด-วันฮารีรายอ) นอกจากนี้รัฐบาลยังชะลอแผนการเปิดพื้นที่เศรษฐกิจออกไปอีก หลังมาตรการป้องกันค่อนข้างล้มเหลว

นอกจากนี้ โจโก วิโดโด ยังให้คำมั่นว่ารัฐบาลจะเร่งให้ความช่วยเหลือทั้งส่วนของการมอบอาหารและเงินสด และได้ประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวงเงิน 2.8 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัส COVID-19 โดยที่ผ่านมาอินโดนีเซียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ปัจจุบันมีตัวเลขผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 17,514 ราย และมียอดผู้เสียสูงถึง 1,148 ราย

อย่างไรก็ตามรัฐบาลมีแผนที่จะเตรียมความพร้อมเข้าสู่ยุค New normal  โดยนาย Muhadjir Effendy รัฐมนตรีประสานงานกระทรวงพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และวัฒนธรรม เผยรัฐบาลจะดำเนินการศึกษาหาแนวทางที่ครอบคลุม โดยมีผู้เกี่ยวข้องหลายภาคส่วนร่วมด้วย เพื่อเตรียมขั้นตอนต่างๆ ให้พร้อมหลังการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ซึ่งอาจจะมีขึ้นหลังจากวันตรุษ แต่ยืนยันว่าไม่มีแนวโน้มที่จะยกเลิกมาตรการคุมเข้มในงอาทิตย์ข้างหน้า เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ 

ที่มาข่าวและภาพประกอบ: Asia Times, 17/5/2020