Amnesty International ออกแถลงการณ์ต่อเหตุรุนแรงที่วิสคอนซิน

กองบรรณาธิการ TCIJ 27 ส.ค. 2563 | อ่านแล้ว 1783 ครั้ง

Amnesty International ออกแถลงการณ์ต่อเหตุรุนแรงที่วิสคอนซิน

Amnesty International ออกแถลงการณ์ต่อเหตุยิงปืนที่รัฐวิสคอนซิน สหรัฐฯ ระหว่างการประท้วง จนมีผู้เสียชีวิตสองรายและบาดเจ็บหนึ่งราย ระบุสหรัฐอเมริกาต้องปกป้องคุ้มครองชีวิตของผู้ประท้วง ซึ่งใช้สิทธิจัดการชุมนุมอย่างสงบ และต้องยุติความรุนแรงจากอาวุธปืน | ที่มาภาพ: Getty Images (อ้างใน Amnesty International Thailand)

27 ส.ค. 2020 Amnesty International Thailand รายงานว่าจากรายงานที่ระบุว่าผู้ประท้วงสองคนถูกสังหารและอีกหนึ่งคนได้รับบาดเจ็บ ระหว่างการประท้วงในเมืองเคโนชา รัฐวิสคอนซิน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล สหรัฐฯ ได้เผยแพร่แถลงการณ์ของเออร์เนสต์ โคเวอร์สัน ผู้จัดการโครงการรณรงค์ยุติความรุนแรงจากอาวุธปืน การประท้วงครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากตำรวจในพื้นที่ยิงปืนใส่เจค็อบ เบลก จนเป็นเหตุให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ระหว่างที่เขาพยายามเข้าไปในรถของตนเอง

“อีกครั้งหนึ่งที่เราได้เป็นพยานรู้เห็นเหตุการณ์ ที่ชี้ให้เห็นความสำคัญที่สหรัฐอเมริกาต้องปกป้องคุ้มครองชีวิตของผู้ประท้วง ซึ่งใช้สิทธิจัดการชุมนุมอย่างสงบ และต้องยุติความรุนแรงจากอาวุธปืน กล่าวโดยสรุปคือ เป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานผู้บังคับใช้กฎหมายที่จะต้องคุ้มครองผู้มารวมตัวเพื่อประท้วง แม้วิสคอนซินเป็นรัฐที่มีกฎหมายให้พกพาอาวุธปืนได้อย่างเปิดเผย แต่เจ้าพนักงานผู้บังคับใช้กฎหมายควรดูแลให้แน่ใจว่า บุคคลซึ่งพกพาอาวุธจะไม่กระทำการที่เป็นอันตรายต่อสาธารณะ หรือใช้อาวุธโจมตีผู้ประท้วงอย่างสงบ”

“เจ้าพนักงานผู้บังคับใช้กฎหมายในรัฐวิสคอนซินและทั่วสหรัฐฯ ต่างเคยแสดงความกังวลต่อกฎหมายที่อนุญาตให้พกพาอาวุธปืนได้อย่างเปิดเผย เนื่องจากเป็นนโยบายที่สนับสนุนความรุนแรง และเป็นภัยคุกคามต่อตำรวจและสาธารณชน เงื่อนไขเพียงประการเดียวต่อการพกพาอาวุธปืนที่บรรจุกระสุนอย่างเปิดเผยในรัฐวิสคอนซินได้แก่ บุคคลผู้นั้นต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาต มีผู้เสียชีวิตสองคนและได้รับบาดเจ็บอีกหนึ่งคน เพียงเพราะมีบุคคลถืออาวุธปืนโดยไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาตในการพกพาอาวุธปืนบรรจุกระสุน ตัดสินใจยิงปืนใส่พวกเขา กฎหมายให้พกพาอาวุธปืนได้อย่างเปิดเผย โดยเฉพาะเมื่อไม่กำหนดให้ต้องมีใบอนุญาต เป็นภัยคุกคามต่อสาธารณะ และควรถูกยกเลิก สหรัฐฯ ไม่ได้ดำเนินการเพื่อปกป้องสิทธิที่จะมีชีวิตรอดและสิทธิในการประท้วงอย่างปลอดภัยของประชาชน”

“ในขณะที่ขบวนการแบล็คไลฟ์แม็ทเทอร์ (Black Lives Matter) เติบโตจนเป็นขบวนการด้านความยุติธรรมทางสังคมใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่เจ้าพนักงานผู้บังคับใช้กฎหมาย จะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อประกันว่า บุคคลทุกคนสามารถแสดงความเห็นได้โดยไม่ต้องเสียชีวิตหรือได้รับอันตราย”

เมื่อเดือน ก.ค. 2020 แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล สหรัฐฯ เผยแพร่รายงานเพื่อสนับสนุนให้มีการดำเนินงาน เพื่อให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายระดับท้องถิ่น ระดับรัฐ และระดับรัฐบาลกลาง ปฏิบัติตามแนวปฏิบัติที่ดีสุดในการควบคุมการประท้วง

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: