27 มี.ค. สธ.ยืนยันผู้ติดเชื้อรายใหม่ 91 ราย สะสม 1,136 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมสะสม 5 ราย

กองบรรณาธิการ TCIJ 27 มี.ค. 2563 | อ่านแล้ว 1140 ครั้ง

27 มี.ค. สธ.ยืนยันผู้ติดเชื้อรายใหม่ 91 ราย สะสม 1,136 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมสะสม 5 ราย

27 มี.ค. 2563 สธ.แถลงยืนยันผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ 91 ราย สะสม 1,136 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาล 1,035 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 11 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 5 ราย

27 มี.ค. 2563 Thai PBS รายงานว่า นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิ กระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโคโรนา (COVID-19) ว่าไทยพบผู้ป่วยเพิ่ม 91 คน รวมตัวเลขผู้ป่วยสะสม 1,136 คน อาการหนัก 11 คน อยู่โรงพยาบาล 1,034 คน กลับบ้านแล้ว 97 คน เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน รวมเสียชีวิต 5 คน

ทั้งนี้ผู้ป่วยยังเกี่ยวข้องสถานที่ หรือสัมผัสผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 30 คน ได้แก่ สนามมวย 5 คน สถานบันเทิง 7 คน สัมผัสผู้ป่วยใกล้ชิด 18 คน ส่วนกลุ่มผู้ป่วยใหม่ 19 คน เดินทางจากต่างประเทศ 10 คนไทย 9 ต่างชาติ 1 คน ทำงานในสถานที่แออัด เกี่ยวข้องต่างชาติ 5 คน ได้แก่ ขับรถโดยสาร พนักงานเสริ์ฟ เจ้าของธุรกิจ และอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวังอีก 4 คนส่วนกลุ่มที่ 3 ส่วนผลตรวจเป็นบวก รอสอบสวนโรค 42 คน

สำหรับผู้เสียชีวิตชาวนราธิวาสอายุ 50 ปียังไม่ชัดเจนว่าไปร่วมในพิธีทางศาสนาที่มาเลเซียหรือไม่ ส่วนข้อกังวลของการฝังศพ ได้มีการออกแนวปฏิบัติจากสำนักจุฬาราชมนตรีแล้วว่าจะมีการทำพิธีทางศาสนาได้ตามปกติ

นพ.อนุพงศ์ กล่าวว่า ขณะนี้กราฟพบผู้ป่วยในพื้นที่ต่างจังหวัดมากขึ้น ขณะนี้พบแล้ว 52 จังหวัด โดยยกระดับมาตรการจังหวัดสำคัญและเมืองใหญ่ ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่วนสงขลา นราธิวาส ยะลา ภูเก็ต ได้อนุญาตให้คนไทยเดินทางข้ามเข้ามาในไทยได้ ซึ่งผู้ร่วมพิธีทางศาสนาที่มาเลเซีย และผู้สัมผัสใกล้ชิดวันนี้ไม่พบป่วยเพิ่ม แต่มีผู้เสียชีวิตที่นราธิวาส 1 คนแต่ต้องคอยดูอีก 2-3 วันอาจจะจบในกรณีนี้

ระดับแนวโน้มคาดการณ์ผู้ป่วยถึงวันที่ 15 เม.ย.63 คาดว่าจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในช่วงวันที่ 25 มี.ค.เป็นต้นไป ถ้าไม่มีมาตรการป้องกันจะมีผู้ป่วยสะสม 25,225 คน แต่ถ้ามาตรการเว้นระยะห่างร้อยละ 50 ตัวเลขสะสม 17,635 คน และถ้าร้อยละ 80 จะลดลงด้วย

“ผู้ป่วยเสี่ยงคือ คนสูงอายุ 70 ปีขึ้นไป ผู้มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิต หัวใจ โรคทางเดินหายใจเรื้อรังและเด็ก”

ดังนั้นหากประชาชนยอมรับมาตรการของรัฐ และดำเนินการ Social distance การเพิ่มระยะห่างในการเข้าสังคม 90% จะหน่วงตัวเลขผู้ป่วยใหม่ ให้มีสถานที่รองรับและเตียงเพียงพอ รวมทั้งล้างมือบ่อย ๆ ใช้เจลแอลกอฮอล์

ด้านนพ.ศุภกิจ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าเชื้อ COVID-19 จะค่อยๆ เพิ่มขึ้นในร่างกายจนกระทั่งไปถึงจุดสูงสุด ระหว่างนั้นร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันมาต่อสู้ หากร่างกายชนะเชื้อจะหมดไปในเวลาหนึ่ง แต่ภูมิคุ้มกันนั้น ในกลุ่มไข้หวัดใหญ่ เปลี่ยนแปลงพันธุกรรมเร็ว อยู่ได้ 1 ปี อยากชี้ว่าการวินิจฉัยต้องตรวจเชื้อ หรือ ANTIGEN และที่กำลังจะมีคือ ตรวจภูมิกัน ซึ่งทุกอย่างต้องตรวจในเวลาที่เหมาะสม 3-5 อาจยังไม่พบเชื้อ

ขณะกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ให้การรับรอง 2 ชุด และมีเงื่อนไขอีก 2 ชุด จาก 5 ชุดตรวจ ส่วนที่ขอตรวจภูมิคุ้มกัน 17 ผลิตภัณฑ์ เนื่องจากราคาถูกและตรวจง่าย รับรองเพียง 2 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งต้องผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมกาาอาหารและยา (อย.) อีกขั้นตอน

“ขอเตือนประชาชนว่าการตรวจ ไม่พบไม่ได้แปลว่าไม่ติด เพราะหากตรวจทันทีใน 1-2 วันแรกนับจากวันที่รับเชื้อจะไม่สามารถตรวจพบเชื้อได้”

ทั้งนี้การตรวจโดยไม่มีความเข้าใจ หากเป็นลบไม่ได้ติดเชื้อ แต่ต้องรอเวลา หรือหากตรวจพบ อาจไม่ได้แปลว่าแพร่เชื้อได้ เพราะอาจติดมาเป็นเดือนแล้ว

เช่นเดียวกับ พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า Social Distance เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะคุมการแพร่ระบาดได้ แบ่งเป็นระดับบุคคล องค์กร สถานที่ ที่พักอาศัยที่ไม่ใช่บ้านเรือน และชุมชน ต้องดูแลสถานที่และคุมการแพร่เชื้อ อย่างน้อยต้องร่วมมือได้ 80%

แนะนำอย่างเข้มงวด ส่วนกลุ่มที่ยังคงเดินทาง ขอให้เป็นไปด้วยความจำเป็นเท่านั้น และลดพฤติกรรมความเสี่ยง ขอให้สวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัด งดสังสรรค์

“ตอนนี้ขอให้อายุ เด็ก ผู้มีโรคประจำตัว หากมีอาการจะต้องประสานสาธารณสุขใกล้บ้าน ลดการเดินทาง หรือส่งมอบบริการไปถึงบ้านพัก โดยขอให้งดกิจกรรมในชุมชน และอยู่ในบ้านเท่านั้น”

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: