หอการค้าสมุทรสาคร ประเมินล็อคดาวน์กระทบธุรกิจวันละ 1 พันล้าน

กองบรรณาธิการ TCIJ 21 ธ.ค. 2563 | อ่านแล้ว 3110 ครั้ง

หอการค้าสมุทรสาคร ประเมินล็อคดาวน์กระทบธุรกิจวันละ 1 พันล้าน

หอการค้าสมุทรสาครชี้ ล็อคดาวน์เสียหายวันละ 1 พันล้าน โรงงานห่วงกระทบโลจิสติกส์ สมาคมอาหารแช่เยือกแข็ง ยืนยันไม่มีเชื้อโคโรนาปนสินค้า | ที่มาภาพ: สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

21 ธ.ค. 2563 เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ รายงานว่านายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวกับกรุงเทพธุรกิจว่า การติดเชื้อโควิด-19 ที่ จ.สมุทรสาคร ต้องรีบแก้ปัญหาให้เร็วที่สุดเพื่อป้องกันการแพร่กระจายออกไปทั่วประเทศ ซึ่งเห็นด้วยกับการประกาศล็อคดาวน์จังหวัด และต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมาได้หารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมกับแนวทางการควบคุมโรค แม้ว่าจะมีการล็อคดาวน์จังหวัดแต่การขนส่งยังทำได้เป็นปกติ และคงต้องให้ประชาชนหลีกเลี่ยงไปในที่ชุมชนและอยากให้มีการทำงานที่บ้านในช่วงเวลา 2 สัปดาห์ก่อนถึงช่วงเทศกาลปีใหม่ ขณะที่ในจังหวัดอื่นที่มีข่าวว่ามีผู้ติดเชื้อนั้นไม่อยากให้ตื่นตระหนกเพราะติดจำนวน 1-2 คนเชื่อว่าจะควบคุมได้

ส่วนผลกระทบทางเศรษฐกิจต้องรอดูสถานการณ์สักระยะ ซึ่งเบื้องต้นประเมินว่าผลกระทบทางเศรษฐกิจไม่มากหลังจากควบคุมได้อยู่ เนื่องจากรู้ต้นตอว่ามาจากแรงงานต่างด้าวที่มาทำงาน และที่สำคัญขณะนี้ทุกคนต้องฟังมาตรการจากรัฐบาลว่าต้องปฏิบัติอย่างไร

ส่วนการพูดคุยกับผู้ผลิตรายใหญ่ในจังหวัดสมุทรสาครได้แสดงความกังวลว่าสินค้าจะนำเข้าและส่งออกได้หรือไม่ ซึ่งหอการค้าไทยยืนยันว่าไม่มีปัญหา เพราะไม่ได้ปิดระบบขนส่ง สำหรับงานเทศกาลปีใหม่ที่หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนได้เตรียมจัดงานไว้นั้นก็น่าจะเดินหน้าได้แต่ต้องทำอย่างระมัดระวัง

นางอำไพ หาญไกรวิไลย์ ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวกับกรุงเทพธุรกิจว่า การล็อคดาวน์กระทบธุรกิจร้านค้าจำนวนมาก เพราะกิจกรรมทางเศรษฐกิจต้องหยุด โดยขณะนี้แทบไม่มีผู้มาซื้ออาหารทะเล ซึ่งแพปลาที่ตลาดทะเลไทยปกติซื้อขายวันละ 300-400 ล้านบาท ก็หายไป ทั้งที่ก่อนหน้านี้เศรษฐกิจในจังหวัดเริ่มฟื้นตัว แต่มาเจอสถานการณ์นี้ยิ่งซ้ำเติมอีก คาดว่ามูลค่าเศรษฐกิจของจังหวัดตั้งแต่การซื้อขายอาหารทะเล ร้านค้า ร้านอาหารจะหายไปวันละ 1 พันล้านบาท ซึ่งไม่รวมกับภาคอุตสาหกรรมภายในจังหวัด ทั้งนี้ต้องหารือภาครัฐหามาตรการเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบเมื่อสถานการณ์กลับปกติ

ส่วนการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่พบแรงงานเมียนมาติดเชื้อจำนวนมากที่มหาชัยนั้น ภาคเอกชนในจังหวัดคาดว่ามาจากการลับลอบเข้าเมือง ซึ่งส่วนใหญ่มารับจ้างในตลาด ส่วนแรงงานเมียนมาในภาคอุตสาหกรรมไม่พบว่าติดเชื้อ เพราะผู้ประกอบการดูแลตรวจสอบคัดกรอง ดังนั้นรัฐจะต้องไปเร่งแก้ปัญหาที่จุดเกิดเหตุ

นายกำจร มงคลตรีลักษณ์ นายกสมาคมการประมงสมุทรสาคร กล่าวว่า การพบแรงงานเมียนมาติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก และล็อคดาวน์ตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค.- 3 ม.ค.นี้ กังวลว่าจะกระทบการระบายอาหารทะเลและราคาตกเนื่องจากจำนวนผู้ค้าที่จะเข้าไปซื้ออาหารทะเลในพื้นที่ลดลง 30-40% ส่วน ส่วนแรงงานเมียนมาที่เป็นลูกเรือประมงนั้นช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา สมาคมประมง 22 จังหวัด ยังไม่พบแรงงานเมียนมาติดโควิดเนื่องจากคัดกรองทั้งขาเข้าและขาออก

นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ นายกสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย เปิดเผยว่า การระบาดของโรคโควิดใน จ.สมุทรสาคร ขณะนี้ต้องรอผลการตรวจเชิงรุกของรัฐบาลอีกครั้งว่าตัวเลขการระบาดของโรคจะเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด

ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือน เม.ย. ที่ผ่านมา โรงงานทุกแห่งให้ความสำคัญกับการระบาดของโรคมาตลอด โดยให้ความเข้มงวดทั้งต่อพนักงงาน ระบบการผลิต ทำให้มั่นใจได้ว่า สินค้าที่ออกจากโรงงาน ปลอดภัยไม่ปนเปื้อนไวรัสโคโรนาแน่นอน

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: