จับตา: เงินเดือนเฉลี่ยในไทยและทั่วโลก สามารถซื้อน้ำมันได้กี่ลิตร (ปี 2563)

กองบรรณาธิการ TCIJ 6 ส.ค. 2563 | อ่านแล้ว 2307 ครั้ง


ผลสำรวจ Picodi ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันในหลาย ๆ ประเทศและคำนวณว่าน้ำมันกี่ลิตรโดยเฉลี่ยในปี 2563 ที่คนไทยจะซื้อได้ต่อเงินเดือนหนึ่งเดือน | ที่มาภาพประกอบ: Paul Brennan (CC0)

Picodi.com ได้ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันในหลาย ๆ ประเทศและคำนวณว่าน้ำมันกี่ลิตรโดยเฉลี่ยในปี 2563 ที่คนไทยจะซื้อได้ต่อเงินเดือนหนึ่งเดือน

น้ำมันที่ถูกกว่า

เนื่องจากความผันผวนของราคาในตลาดน้ำมัน, เหมือนปีที่แล้ว เราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับราคาน้ำมันในช่วงครึ่งแรกของปี ใน 16 ประเทศจาก 21 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พิจารณาแล้วราคาน้ำมันในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ต่ำกว่าในปี 2562 โดยราคานั้นลดลงมากที่สุดในมาเลเซีย (−19%), เวียดนาม (−18.4%), ประเทศไทย (−17.7%) และฟิลิปปินส์ (−14.4%)

ในอินโดนีเซียราคาน้ำมันลดลง 9.5% (อันดับที่ 7) ราคานั้นลดลงเล็กน้อยในออสเตรเลีย (−9.2%), นิวซีแลนด์ (−4.9%) และญี่ปุ่น (−5.5%)

เป็นที่น่าสนใจในฮ่องกงและปากีสถานราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นปานกลาง (1.8%) ส่วนในศรีลังการาคาน้ำมันนั้นเพิ่มขึ้นถึง 3.4%.

ที่มาเลเซียนั้นราคาน้ำมันถูกที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ราคาน้ำมันเฉลี่ยแปลงจากริงกิตมาเลเซียได้เท่ากับ 0.30 USD/ลิตร ส่วนชาวฮ่องกงต้องจ่ายราคาสูงสุดอยู่ที่ 2.22 USD/ลิตร

เราเปรียบเทียบราคาน้ำมันโดยเฉลี่ยในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 กับข้อมูลเงินเดือนโดยเฉลี่ยล่าสุด ในปี 2563 ออสเตรเลียและมาเลเซียมีราคาน้ำมันที่ดีที่สุดต่ออัตราเงินเดือนโดยเฉลี่ยในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เงินเดือนโดยเฉลี่ยทำให้ประชากรในประเทศนั้น ๆ ซื้อน้ำมันได้เป็นจำนวนมากกว่าเป็นจำนวน 4,288 ลิตร and 2,135 ลิตรตามลำดับ และประเทศนิวซีแลนด์ (2,082 ลิตร)

โดยข้อมูลล่าสุดจาก NSO ในประเทศไทยเงินเดือนเฉลี่ยจำนวน 19,472 บาทสุทธิ หมายความว่าคนไทยสามารถซื้อน้ำมันได้ 657 ลิตรด้วยเงินเดือนหนึ่งเดือน (อันดับที่ 9) ประเทศที่ดีกว่าไทยคือ จีน (1,039 ลิตร) และญี่ปุ่น (2,062 ลิตร) อันดับที่ต่ำกว่าคือเวียดนาม (582 ลิตร), อินโดนีเซีย (314 ลิตร) และฟิลิปปินส์ (333 ลิตร)

ประเทศลาวและกัมพูชาอยู่ที่สองอันดับสุดท้าย เงินเดือนโดยเฉลี่ยในประเทศเหล่านี้สามารถจ่ายค่าน้ำมันได้เป็นจำนวน 300 ลิตร และ 250 ลิตรตามลำดับ

การจัดอันดับราคาน้ำมันโลก

ในการจัดอันดับโลกนั้นตำแหน่งสูงสุดถูกยึดครองโดยประเทศอ่าวเปอร์เซีย ในซาอุดิอาระเบีย, กาตาร์ และคูเวต คุณสามารถซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงได้ตั้งแต่ 5,112 ลิตร ถึง 8,210 ลิตรสำหรับเงินเดือนโดยเฉลี่ย เป็นที่น่าสังเกตว่าชาวคูเวตสามารถซื้อได้น้อยกว่าปีที่แล้วเป็นจำนวน 139 ลิตร ในทางกลับกัน,ซาอุดิอาระเบียและกาตาร์ในปี 2020 นั้น สามารถซื้อนำมันเชื้อเพลิงได้ประมาณ 4,933 ลิตร และ 1,603 ลิตรขึ้นไป.

สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดนั้นเกิดขึ้นในคิวบาซึ่งเงินเดือนเฉลี่ยนั้นซื้อได้เพียง 28 ลิตร (เพิ่มขึ้น 2 ลิตร) ถึงแม้ว่าทาจิกิสถานและแซมเบียจะอยู่อันดับล่างที่ใกล้เคียงกับคิวบา แต่ประชาชนในประเทศเหล่านี้สามารถจ่ายเพื่อซื้อน้ำมันได้มากกว่า 7 เท่าของคิวบา (151 ลิตร และ 219 ลิตรตามลำดับ)

ปรากฎว่าในบางประเทศถึงจะเป็นผู้ประกอบการน้ำมันนั้นก็ไม่ได้ทำให้ประชาชนได้ใช้น้ำมันในราคาที่ดีกว่าเสมอไป ตัวอย่างเช่น ไนจีเรีย ผลิตน้ำมันได้จำนวนมากที่สุดในแอฟริกา แม้จะมีราคาน้ำมันต่ำที่สุดในโลก (0.34 $) แต่เงินเดือนเฉลี่ยค่อนข้างต่ำ (182 $) จึงไม่สามารถซื้อน้ำมันได้จำนวนไม่มากนัก เพียงแค่ 539 ลิตร ซึ่งมีความคล้ายกับสวรรค์แห่งน้ำมันของยุโรป รัสเซียประเทศที่เป็น ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับสอง สำหรับเงินเดือนเฉลี่ยสามารถซื้อได้เพียง 919 ลิตร

ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งคือ สถานการณ์ที่เวเนซุเอลาประเทศในอเมริกาใต้ ได้จำกัดจำนวนน้ำมันซึ่งให้ซื้อน้ำมันต่อคนเพียง 120 ลิตรต่อเดือน ในราคาประมาณ 0.025 ดอลลาร์ต่อลิตร เมื่อเกินปริมาณที่กำหนดแล้วน้ำมันนั้นสามารถซื้อได้เพียงที่ “ตลาด” ราคานั้นอยู่ที่ 0.5 ดอลลาร์ต่อลิตร และมีสถานีบริการน้ำมันเพียง 200 แห่งในประเทศเท่านั้น จากการคำนวณของเราแสดงให้เห็นว่าเงินเดือนโดยเฉลี่ยในเวเนซุเอลานั้นสามารถซื้อน้ำมันได้เพียงแค่ 148 ลิตร (120 ลิตร เงินอุดหนุน และ 28 ลิตร จ่ายเต็มจำนวน) ซึ่งแตกต่างอย่างมากเมื่อเทียบกับปีที่แล้วโดยทฤษฎี 14 พันล้านลิตร


อ่านเพิ่มเติมได้ที่: ดัชนีน้ำมันเชื้อเพลิง: คุณสามารถซื้อน้ำมันได้กี่ลิตรสำหรับเงินเดือนเฉลี่ยในประเทศไทยและทั่วโลก

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: