3 เม.ย. ไทยติดเชื้อเพิ่ม 103 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 1,978 ราย

กองบรรณาธิการ TCIJ 3 เม.ย. 2563 | อ่านแล้ว 1139 ครั้ง

3 เม.ย. ไทยติดเชื้อเพิ่ม 103 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 1,978 ราย

3 เม.ย. 2563 ศบค. แถลงไทยพบผู้ติดเชื้อใหม่ 103 คน รวมผู้ติดเชื้อสะสม 1,978 คน เสียชีวิตเพิ่ม 4 คน รวมผู้เสียชีวิตสะสม 19 คน รักษาหายสะสม 581 คน อยู่อันดับที่ 37 ของโลก ผู้เสียชีวิตเพิ่มเชื่อมโยงกับสนามมวย และเสี่ยงจากโรคประจำตัว-สูงอายุ ชี้นายกรัฐมนตรี ยังไม่พอใจการสกัดโรค หลังตัวเลขผู้ป่วยยังเพิ่มวันละ 100 คน

3 เม.ย. 2563 Thai PBS รายงานว่านพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงข่าวสถานการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 ว่า ขณะนี้ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อกว่า 1,142,096 ล้านคนแล้ว ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 52,298 คน ส่วนไทยอยู่ในลำดับที่ 37 ของโลก ผู้ป่วยยืนยันเพิ่มวันนี้ 103 คน คนรวมตัวเลขสะสม 1,978 คน เสียชีวิตเพิ่ม 4 คนรวม 19 คน และมีผู้ป่วยหายกลับบ้าน 581 คน โดยตัวเลขที่หายป่วย อาจมองว่าเป็นตัวที่ต่ำกว่าความเป็นจริง เหตุผลเพราะระบบรายงานเข้ามาผ่านระบบออนไลน์

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับผู้เสียชีวิตคนแรก เป็นชายอายุ 59 ปี อาชีพพนักงานการรถไฟฯ มีอาการป่วยเข้ารักษา 16 มี.ค.ที่ผ่านมา ด้วยอาการไข้ เข้าพบแพทย์ที่โรงพยาบาลบางปะกอก มาพบแพทย์ 21 มี.ค.จากนั้นกลับไปทำงานตามปกติ เหมือนมีอาการน้อย และต่อมา 31 มี.ค.ที่ผ่านมา มีอาการหนักขึ้นเข้ารักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง และเสียชีวิต 2 เม.ย.ที่ผ่านมา

ส่วนคนที่ 2 ชายไทยอายุ 71 ปี มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยก่อนหน้านี้ เป็นลูกของผู้ป่วนที่ไปดูมวย เข้ารักษาที่โรงพยาบาลในกทม.มีโรคประจำตัวเป็นโรคไต เริ่มป่วย 16 มี.ค.ที่ผานมา เสียชีวิต 1 เม.ย.ที่ผ่านมา

ส่วนคนที่ 3 เป็นชายไทยอายุ 84 ปี ทำงานสนามมวยราชดำเนิน มีโรคประจำตัวไต ความดันโลหิตสูง และโรคเก๊าท์ เข้ารักษาในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกทม.ตั้งแต่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา และเสียชีวิต 2 เม.ย.ที่ผ่านมา และคนสุดท้าย ผู้ป่วยชายไทยอายุ 84 ปี มีประวัติไปสนามมวยราชดำเนิน เริ่มป่วย 14 มี.ค.ที่ผ่านมา เข้ารักษา 21 มี.ค.ที่ผ่านมา ด้วยอาการไข้ 39.3 องศาเซลเซียส มีน้ำมูก ไอ เข้าไปรักษาตัวในโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งในกทม.เสียชีวิต 2 เม.ย.ที่ผ่านมา

“ถ้าดูจากกลุ่มอายุของผู้เสียชีวิต 3 ใน 4 คน เป็นผู้สูงอายุตั้งแต่ 71, 84 ปี และเชื่อมโยงกับกลุ่มสนามมวย ดังนั้นจึงอยากเตือนอีกครั้ง ว่าผู้สูงอายุเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อโรคนี้มาก สงกรานต์ปีนี้ ถ้าเป็นลูกกตัญญู ลูกหลานไม่ควรเข้าใกล้เข้าใกล้กลุ่มผู้สูงอายุ และปีนี้รดน้ำไม่ควรมี และอาจจะต้องใช้เจลแอลกฮอล์ขอพรแทน”

โฆษก ศบค.กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังต้องเน้นย้ำว่าช่วงกลุ่มอายุที่ป่วยเพิ่มขึ้นคือระหว่าง 20-29 ปี เพิ่มขึ้นตลอดตั้งแต่ มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งกลุ่มนี้มีการเดินทางพบปะสังสรรค์บ่อยๆ จึงเป็นกลุ่มเสี่ยงแพร่กระจายเชื้อ ต้องสื่อสารไปยังผู้ปกครองช่วยบอกด้วย

สำหรับผู้ป่วยทั้ง 103 คน ในกลุ่มแรกทั้ง 48 คนยังเป็นกลุ่มผู้สัมผัสกลุ่มเดิมทั้งสนามมวย 1 คน สถานบันเทิง 2 คน กิจกรรมทางศาสนา 6 คนจากอินโดนีเซีย และสัมผัสใกล้ชิดใกลชิดผู้ป่วยเดิม 39 คน ส่วนกลุ่มที่ 2 กลับจากต่างประเทศ 44 คนจำนวนนี้เป็นคนไทย 15 คน สัมผัสผู้ป่วยต่างประเทศ 2 คน สถานที่ชุมนุม 4 คน อาชีพและพื้นที่แออัด 13 คน และระหว่างการสวบสวนโรคอีก 11 คน และบุคลากรทางการแพทย์อีก 5 คน ซึ่งกรณีกลุ่มที่ 2 ที่เดินทางกลับมาแล้วป่วยมากขึ้น เป็นผลให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องขอให้ชะลอการเดินทางทั้งจากคนที่เดินทางกลับมา และคนไทย

“ตอนนี้มีกลุ่มคนไทย 100 คนจากอินโดนีเซียจะเข้ามาวันที่ 6 เม.ย.นี้ที่ขออนุญาตไว้แล้ว ไทยจะเตรียมพื้นที่รองรับ ส่วนอีกกลุ่มจากมาเลเซียอีก 83 คน และนักเรียนเอเอฟเอชจากสหรัฐ ทั้งหมดต้องร่วมมืออยู่ในพื้นที่รัฐจัดให้ 100% เพราะเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะนำเชื้อมาในไทย”

นอกจากนี้ยังขอชื่มชม 15 จังหวัดที่ไม่มีผู้ป่วย ได้แก่ กำแพงเพชร ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ พระนครศรีอยุธยา พังงา พิจิตร ระนอง ลำปาง สกลนคร สตูล สิงห์บุรี สมุทรสงคราม อ่างทอง นอกจากนี้ หากจำแนกส่วนชุดข้อมูลของกรมควบคุมโรค พบว่าในตอนนี้ตัวเลขผู้ป่วยทั้ง ระหว่างกทม. และต่างจังหวัดไม่น่าไว้วางใจ เดิมเมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่ากทม.ดีขึ้น แต่วันนี้กลับมาตัวเลขคนป่วยเพิ่ม และมีการกระจายตัวใน 14 จังหวัดที่มีผู้ป่วยรายใหม่

“ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นวันละ 100 คน นายกรัฐมนตรี ยังไม่พอใจ อัตรา 0.96 ต่อผู้ติดเชื้อที่รายงานยังมีแนวโน้มว่ากราฟยังพุ่งขึ้น”

นอกจากนี้ นพ.ทวีศิลปก์ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (2 เม.ย.) สาระสำคัญเรื่องที่พล.อ.ประยุทธ์ ได้แถลง สถานการณ์การติดเชื้อ และเน้นว่าทางการแพทย์สำคัญและเน้นย้ำสุขภาพของคนไทยทุกคน รณรงค์ให้คนไทยอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ และจัดสรรหน้ากากอนามัยให้กับแพทย์ และนายกรัฐมนตรีในฐานะแม่ทัพ จะไม่ย่อท้อ และมีคำพูดว่า “สุขภาพนำเสรีภาพ” ทำให้มีการประกาศว่าจะมีข้อกำหนดเรื่องเคอร์ฟิวคืนแรก เริ่มเวลา 22.00 น.-04.00 น.

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: