กระทรวงการต่างประเทศเวียดนามแถลงการณ์เรียกร้องให้นานาชาติยกระดับความร่วมมือในการต่อสู้กับเครือข่ายค้ามนุษย์และลักลอบพาคนเข้าเมือง หลังจากเจ้าหน้าที่อังกฤษยืนยันการตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลเหยื่อ 39 ศพในคอนเทนเนอร์ห้องเย็นที่เมืองเอสเซกซ์ ใกล้กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยพบว่าเป็นชาวเวียดนามทั้งหมด ไม่ใช่ชาวจีนตามที่สันนิษฐานตอนแรก

เจ้าหน้าที่ทางการเวียดนามและอังกฤษกำลังทำงานร่วมกันเพื่อระบุอัตลักษณ์บุคคลของผู้เสียชีวิต พร้อมทั้งได้จับกุมผู้ต้องสงสัยที่อาจเกี่ยวข้องกับโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ในกระบวนการลักลอบพาชาวเวียดนามเหล่านี้เข้าอังกฤษได้แล้วหลายคน รวมทั้งโชเฟอร์ชาวไอร์แลนด์เหนือวัย 25 ปี ที่เป็นคนพบศพเป็นคนแรก และได้ถูกนำตัวขึ้นศาลเมื่อวันจันทร์ที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมาในข้อหาฆาตกรรม 

ด้านนายฟิล โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการฝ่ายภูมิภาคเอเชียของ ฮิวแมนไรต์ วอตช์ เผยว่าความต้องการเดินทางเข้าประเทศอังกฤษ และประเทศที่มั่งคั่งอื่น ๆ ในยุโรปได้กลายเป็นแหล่งทำเงินชั้นดีของขบวนการค้ามนุษย์ เพราะกลุ่มหล่านี้มีเส้นสายภายในอย่างดีกับเจ้าหน้าที่รัฐ และมีการคอรัปชั่น ทำให้พวกเขาสามารถลักลอบขนแรงงานจากเวียดนามเข้ายุโรปได้ ซึ่งพบว่าหลายครอบครัวยอมจ่ายเงินให้แก๊งค์ค้ามนุษย์ประมาณ 30,000 ดอลล่าร์ (ราว 900,000 บาท)

นอกจากนี้กระทรวงการต่างประเทศ เผยอีกว่าชาวเวียดนามที่ต้องการอพยพเข้าประเทศอังกฤษอย่างผิดกฎหมาย ต้องเดินทางเป็นระยะทางกว่า 9,000 กิโลเมตร จากเวียดนาม เข้าสู่ประเทศจีน รัสเซีย และทวีปยุโรป ก่อนจะข้ามช่องแคบเข้าสู่ประเทศอังกฤษจากท่าเรือ Zeebrugge ประเทศเบลเยียม โดยรัฐบาลเวียดนามเห็นว่าเหตุกาณณ์ดังกล่าวเป็นโศกนาฏกรรมต่อมนุษยชาติที่ร้ายแรง และหวังว่าทางการอังกฤษจะสามารถสืบสวนสอบสวนเสร็จสิ้นในเร็วๆนี้เพื่อนำตัวบุคคลที่มีส่วนรับผิดชอบต่อโศกนาฎกรรมครั้งนี้มาลงโทษ

ที่มาข่าวและภาพประกอบ: VOA, 2/11/2019