นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด เผยว่ารัฐบาลกำลังทบทวนรายละเอียดในโครงการรถไฟ East Coast Rail Link (ECRL) ซึ่งเริ่มต้นก่อสร้างเมื่อปีที่แล้ว เพราะข้อตกลงในโครงการนี้เป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจประเทศ ไม่มีประโยชน์ต่อสาธารณชน และจะไม่ได้ผลประโยชน์กลับมาด้วย นอกจากนี้รัฐมนตรีเศรษฐกิจของมาเลเซีย เผยอีกว่า รัฐบาลกำลังพิจารณาปัจจัยที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเกี่ยวกับโครงการเมกะโปรเจกต์หลายโครงการ โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมมาเลเซียและสิงคโปร์ โดยจะต้องหารือกับสิงคโปร์ก่อนด้วยว่าจะทบทวนโครงการนี้อย่างไรได้บ้าง และจะมีโครงการขนส่งสาธารณะเชื่อมสองประเทศอะไรมาทดแทนได้บ้าง

โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมมาเลเซียและสิงคโปร์มูลค่าแปดแสนล้านบาทนี้ เป็นเพียงหนึ่งในโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่ริเริ่มโดยอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค แต่รัฐบาลชุดใหม่ของปากาทัน ฮาราปัน ได้สั่งทบทวนโครงการ และกำลังตั้งคำถามว่าจำเป็นต้องมีรถไฟความเร็วสูงหรือไม่สำหรับระยะทางเชื่อมสองประเทศที่มีความยาวเพียง 350 กิโลเมตร

อย่างไรก็ตามผู้ก่อสร้าง ECRL โครงการรถไฟ 688 กิโลเมตร ที่เกิดขึ้นในรัฐบาลของ นาจิบ ราซัค คือบริษัทสัญชาติจีน China Communications Construction และใช้เงินกู้ส่วนใหญ่มาจากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของจีน ถือเป็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศด้วยมูลค่า 5.5 หมื่นล้านริงกิต (ราว 4.4 แสนล้านบาท) และเป็นโครงการภายใต้นโยบายหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางจากปักกิ่ง

มหาเธร์เห็นว่าการยกเลิกลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ภายในประเทศจะช่วยให้รัฐบาลสามารถลดภาระหนี้สาธารณะ 2 แสนล้านริงกิต (ราว 1.6 ล้านล้านบาท) จากยอดหนี้ทั้งหมด 1 ล้านล้านริงกิต (ราว 8 ล้านล้านบาท) ซึ่งเกิดขึ้นจากการทุจริตในกองทุนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติมาเลเซีย (1MDB) ของรัฐบาลชุดเก่า

ที่มาข่าวและภาพประกอบ: The Strait Times, 27/5/2018