'อี-สปอร์ต โมบายเกม' ดันมูลค่าตลาดเกมไทยทะลุ 30,000 ล้านบาท

กองบรรณาธิการ TCIJ 27 มิ.ย. 2561 | อ่านแล้ว 1975 ครั้ง

'อี-สปอร์ต โมบายเกม' ดันมูลค่าตลาดเกมไทยทะลุ 30,000 ล้านบาท

รายงานพิเศษจากสื่อ 'ฐานเศรษฐกิจ' ระบุ 'อี-สปอร์ต โมบายเกม' มาแรง! ดันมูลค่าตลาดเกมไทยทะลุ 30,000 ล้านบาท เฉพาะ ROV เกมเดียวแห่เติมเงินซื้อไอเทมวันละ 20 ล้านบาท สมาคมอีสปอร์ตฯ มั่นใจนักกีฬาไทย มีโอกาสคว้าเหรียญเอเชี่ยนเกมส์ที่อินโดฯ เชื่อกระตุ้นวงการเกมคึกคัก PwC เผยผลสำรวจคาดปี 65 มูลค่าเพิ่มเป็น 67,800 ล้านบาท ที่มาภาพประกอบ: ExplorerBob (CC0)

เว็บไซต์ฐานเศรษฐกิจ รายงานเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2561 ว่านายสันติ โหลทอง นายกสมาคมอีสปอร์ตแห่งประเทศไทย (TESA) เปิดเผยว่าตลาดเกมในไทยมีแนวโน้มการเติบโตขึ้นต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าในปีนี้มูลค่าตลาดโดยรวมน่าจะมีมูลค่ามากกว่า 30,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นประมาณ 10% ซึ่ง อี-สปอร์ต เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนตลาดให้เติบโตขึ้น โดยนอกจากสนามการแข่งขันเกมที่มีการจัดขึ้นตลอดทั้งปีแล้ว อี-สปอร์ต ยังได้บรรจุเป็นกีฬาสาธิตในเอเชี่ยนเกมส์ 2018 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นในวงการเกมคึกคักขึ้น เนื่องจากนักกีฬาอี-สปอร์ต ของไทย มีโอกาสมีความพร้อมตลอดปี ซึ่งหวังผ่านรอบคัดเลือกและคว้าเหรียญในเอเชี่ยนเกมส์ได้ นอกจากนี้ ยังเป็นผลมาจากการเติบโตของกลุ่มโมบายเกมที่มีการเติบโตแซงหน้าพีซีเกม

"เฉพาะตลาดบัตรเติมเงินเกม เพื่อซื้อไอเทม (สิ่งของอาวุธเพิ่มความสามารถตัวละครในเกม) เกม ROV เกมเดียวมีรายได้วันละ 20 ล้านบาท ช่วงที่พีกสุดมีรายได้วันละ 50 ล้านบาท ไม่นับรวมเกมของค่ายอื่น อาทิ เน็ตมาเบิ้ล หรือ เอเชียซอฟท์ ซึ่งคาดว่า ใน 1 ปี เฉพาะตลาดบัตรเติมเงินซื้อไอเทมเกมอย่างเดียวก็กว่า 10,000 ล้านบาท ขณะที่ ตลาดแพ็กเกจบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ต รวมเน็ตซิม ท็อปอัพ ประเมินรายได้ที่เกิดจากเกมน่าจะมากกว่า 10,000 ล้านบาท เช่นเดียวกับตลาดอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์เล่นเกม หรือ เกมมิ่งเกียร์ อีกประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งตลาดยังมีแนวโน้มเติบโตได้อีกมาก โดยผู้ให้บริการเกมยังมีโอกาสสร้างรายได้จากโฆษณาในเกม ที่ปัจจุบัน ยังมีรายได้จากส่วนนี้ไม่มาก หรือ สปอนเซอร์สนับสนุนการแข่งขันเกม"

สอดคล้องกับรายงาน PwC’s Global Entertainment and Media Outlook 2018-2022 ซึ่งทำการสำรวจทิศทางอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิงทั่วโลก ว่า รายได้จากสื่อดิจิตอลจะยิ่งมีบทบาทสำคัญต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิงไทยในอนาคต

นางณฐพร พันธุ์อุดม หุ้นส่วนสายงานตรวจสอบบัญชีและหัวหน้าสายงาน Technology , InfoComm และ Entertainment & Media (TICE) บริษัท Pwc ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่าผลสำรวจดังกล่าวคาดการณ์ว่า ในปี 2565 มูลค่าการใช้จ่ายผ่านอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิงไทยจะอยู่ที่ 478,355 ล้านบาท โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีในช่วง 5 ปีข้างหน้า (2561-2565) อยู่ที่ 6.5%

รายงานฉบับดังกล่าวระบุถึง 3 อันดับสื่อและบันเทิงของไทย ที่มีมูลค่าการใช้จ่ายสูงที่สุด ได้แก่ โฆษณาออนไลน์ (เติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 18.6%) วิดีโอเกมและ อี-สปอร์ต (เติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 16.9%) และวิดีโอผ่านอินเตอร์เน็ต (เติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 13.9%) ขณะที่ หนังสือพิมพ์จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีลดลงที่ 1.9% และนิตยสาร มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีลดลงที่ 0.7%

นางณฐพร กล่าวว่า ตลาดเกม วิดีโอเกมและ อี-สปอร์ต ของไทย นับเป็นตลาดที่เติบโตรวดเร็วที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยในปี 2560 มูลค่าใช้จ่ายของตลาดนี้อยู่ที่ 31,100 ล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 67,800 ล้านบาท ในปี 2565 โดยได้แรงหนุนจากการใช้งานสมาร์ทโฟน ค่าใช้จ่ายแพ็กเกจอินเตอร์เน็ต และแอพพลิเคชันต่าง ๆ ที่มีราคาไม่แพง ส่วนตลาด อี-สปอร์ต ในไทย ที่ถึงแม้จะยังมีขนาดเล็กอยู่ แต่ก็มีแนวโน้มที่จะเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน

"ความนิยมของผู้บริโภคไทยต่อวิดีโอเกมจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น เกมในรูปแบบพีซี หรือ เกมบนมือถือ นอกจากนี้ กระแสของ อี-สปอร์ต ในเอเชียที่มีความคึกคักอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา น่าจะดึงดูดให้นักพัฒนาเกม นักโฆษณา รวมถึงผู้สนับสนุนต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ ตบเท้าเข้ามาลงทุนในตลาดนี้มากขึ้น"

อนึ่งก่อนหน้านี้ นายสันติธาร เสถียรไทย บุตรชายนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ลาออกจากธนาคารเครดิตสวิส ไปกลุ่มบริษัท Sea Limited ผู้นำในด้าน Digital Economy ที่มีบริการในเครือ ได้แก่ Garena , Shopee และ Airplay ในตำแหน่ง Group Chief Economist

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: