สภาอินโดนีเซียผ่านร่างกม.ต้อต้านก่อการร้ายใหม่-บทลงโทษหนักขึ้น

กองบรรณาธิการ TCIJ: 26 พ.ค. 2561 | อ่านแล้ว 1920 ครั้ง

สภาอินโดนีเซียผ่านร่างกม.ต้อต้านก่อการร้ายใหม่-บทลงโทษหนักขึ้น

สภาผู้แทนราษฎรของอินโดนีเซียมีมติเป็นเอกฉันท์ตามความคาดหมาย ในการประชุมเมื่อวันศุกร์ ผ่านร่างกฎหมายการต่อต้านการก่อการร้ายฉบับใหม่ที่มีความเข้มงวดมากขึ้น โดยมาตรการรวมถึงการอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้นานสูงสุด 21 วัน จากเดิมเพียง 7 วัน และการตั้งข้อหากับบุคคลซึ่งเข้าร่วมหรือมีหน้าที่จัดหาสมาชิกเข้าสู่องค์กรก่อการร้ายทั้งในและต่างประเทศ

แม้หน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนหลายแห่งพากันวิจารณ์ว่า รัฐบาลอาจใช้กฎหมายนี้เป็นเครื่องมือในการจัดการกับฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง แต่ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด กล่าวว่าเขาหวังเป็นอย่างยิ่งในการให้ร่างกฎหมายได้รับการอนุมัติจากสภา มิเช่นนั้นเขาจะใช้อำนาจพิเศษฝ่ายบริหารในฐานะผู้นำประเทศ ให้ร่างกฎหมายมีผลบังคับใช้ทันที

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวโดยฝ่ายนิติบัญญัติของอินโดนีเซีย มีขึ้นหลังตำรวจวิสามัญผู้ต้องสงสัยเป็นสมาชิกกลุ่มหัวรุนแรงอย่างน้อย 14 คน และจับกุมอีกประมาณ 60 คน ในปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายตามเมืองใหญ่หลายแห่งในประเทศ เพียงไม่กี่วันหลังเกิดเหตุก่อการร้ายต่อเนื่องหลายระลอกที่เมืองสุราบายา ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ ตั้งอยู่บนเกาะชวา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวมกันอย่างน้อย 30 คน ในจำนวนนี้รวมคนร้าย 13 คน มีครอบครัวมือระเบิดจาก 2 ครอบครัวด้วย รวม 10 คน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เชื่อว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่ม Jamaah Ansharut Daulah (JAD) ที่เป็นพันธมิตรกับกลุ่มไอเอส

อย่างไรก็ตามศาลพิเศษพิจารณาคดีก่อการร้ายในกรุงจาการ์ตา ไต่สวนคำร้องอุทธรณ์บทลงโทษประหารชีวิตของนาย Aman Abdurrahman นักการศาสนาหัวรุนแรงชื่อดัง และเป็นหนึ่งในแกนนำคนสำคัญของ JAD หลังอัยการขอให้ศาลพิจารณาบทลงโทษประหารชีวิตแก่ผู้ต้องหาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยบรรยากาศของการไต่สวนอยู่ภายใต้การรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด และนาย Aman กล่าวต่อผู้พิพากษาว่าเขาไม่มีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์ที่เมืองสุราบายา และประณามกลุ่มผู้ก่อเหตุว่าเป็นพวกจิตป่วย และไม่เข้าใจศาสนา

ที่มาข่าวและภาพประกอบ: The Jakarta Globe, 25/5/2018

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: