บริษัทเสื้อผ้าและเครื่องประดับแฟชั่นชื่อดังเตรียมย้ายฐานการผลิตจากประเทศจีนมายังประเทศกัมพูชา เนื่องจากปัญหาของสงครามการค้าระหว่างประเทศจีนและสหรัฐฯ ยังคงคุกรุ่น ส่งผลให้ประเทศกัมพูชาได้รับอานิสงค์แบรนด์สินค้าย้ายฐานการผลิตเข้ากัมพูชา เพื่อเลี่ยงความเลี่ยงด้านภาษี ด้านสมาคมเครื่องแต่งกายและรองเท้าของสหรัฐฯ แถลงเตือนว่าการย้ายฐานการผลิตออกจากจีนไม่ใช่เรื่องง่าย

ที่ผานมาบรรดาบริษัทสินค้าแฟชั่นต่างพากันหาแหล่งผลิตสินค้าในชาติเอเชียตะวันเฉียงใต้ เพื่อเป็นทางเลือกจากจีน ที่กำลังเผชิญสงครามการค้ากับสหรัฐฯ หนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจคือกัมพูชาและเวียดนาม แต่ปัญหาหลักคือคุณภาพของแรงงานกัมพูชานั้นยังต่ำกว่าจีน โดยสภาพัฒนาฮ่องกงสำรวจความเห็นจากบรรดาผู้จัดการโรงงานพบว่า ผลิตภาพของแรงงานกัมพูชาโดยเฉลี่ยอยู่ที่เพียง 50-60% เท่านั้นเมื่อเทียบกับผลิตภาพของแรงงานจีน

ด้านนาย Edward Rosenfeld ผู้บริหารของแบรนด์ Steven Madden เผยว่าบริษัทกำลังย้ายฐานการผลิตมาที่ประเทศกัมพูชา โดยยอดการผลิต 15% จะอยู่ที่กัมพูชาภายในปีนี้ และจะเพิ่มขึ้นเป็นอีกเท่าตัวภายในปีหน้า ขณะที่บริษัท Tapestry ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์อย่าง Coach และ Kate Spade ก็เตรียมย้ายฐานการผลิตจากจีนมาประเทศกัมพูชา หรือไม่ก็เวียดนาม โดยจะเหลือกำลังการผลิตในประเทศจีนไม่เกิน 5% เท่านั้น

นอกจากนี้ อีกเหตุผลหลักที่หลายแบรนด์ชั้นนำเตรียมย้ายการผลิต อาจเพราะประเทศกัมพูชานั้นให้สิทธิประโยชน์แก่โรงงานที่มาตั้งฐานการผลิตที่นี่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสิทธิทางด้านภาษี นอกจากนั้นยังมีเรื่องของค่าแรงที่ถูกกว่าในจีนด้วย ในปีที่ผ่านมากัมพูชานั้นมียอดส่งออกรองเท้าเติบโตมากถึง 25%

ที่มาข่าวและภาพประกอบ: Bloomberg, 20/8/2018