อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันปาล์มรายใหญ่ที่สุดในโลก เตรียมเข้าเจรจากดดันให้สหภาพยุโรป (EU) ยกเลิกแผนการกำหนดมาตรฐานเข้มงวดด้านสิ่งแวดล้อม ต่ออุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม โดยจะสรุปในการตั้งกฎเกณฑ์ใหม่ สำหรับความสัมพันธ์ทางการค้ามูลค่า 35,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,093,510 ล้านบาท) ต่อปี ก่อนเข้าสู่ช่วงเตรียมผืนดินสำหรับการเพาะปลูก 

อย่างไรก็ตามการแผ้วถางและเผาป่าในแต่ละปี นอกจากพื้นที่ป่าฝนขนาดใหญ่จะถูกทำลาย ยังเป็นภัยคุกคามต่อสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์หลายชนิด และก่อให้เกิดหมอกควันพิษจากไฟป่าคุกคามภูมิภาคในรอบหลายปีที่ผ่านมา

ที่ผ่านมาอินโดนีเซียและ EU เจราจากันมาแล้ว 3 ครั้ง และจะเริ่มการเจรจารอบที่ 4 ซึ่งอาจเป็นรอบสุดท้าย โดยการเจรจาครั้งนี้จะครอบคลุมกฎเกณฑ์ทางด้านการค้า การลงทุน และทรัพย์สินทางปัญญา ในเอกสารของเจ้าหน้าที่อินโดนีเซีย เรียกร้องต่อ EU ให้ใช้มาตรฐานความยั่งยืนของจาการ์ตา แม้จะมีความวิตกอย่างยิ่งเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือ แทนกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดของ EU  ที่นำเสนอเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว

ขณะที่เพื่อนบ้านมาเลเซีย อีกหนึ่งประเทศผู้ผลิตน้ำมันปาล์มรายใหญ่ มีความเคลื่อนไหวโดยกลุ่มโจมตีความเคลื่อนไหวของรัฐสภายุโรป (EP) ที่จะสั่งห้ามใช้น้ำมันปาล์มในเชื้อเพลิงชีวภาพ ตั้งแต่ปี 2021 โดยทั้ง 2 ประเทศเห็นตรงกันว่า ข้อห้ามดังกล่าวจะทำลายเกษตรกรท้องถิ่น ที่ยังชีพอยู่ด้วยรายได้จากการเพาะปลูกพืชชนิดนี้

ที่มาข่าวและภาพประกอบ: Malaysiakini, 19/2/2018