ธ.ก.ส. ชง ก.คลัง ขอขยายเพดานสินเชื่อรายย่อยกรณีฉุกเฉินเพิ่ม หลังวงเงินก้อนแรกกำลังจะเต็ม 5 พันล้านบาท

กองบรรณาธิการ TCIJ 30 พ.ย. 2560 | อ่านแล้ว 3190 ครั้ง

ธ.ก.ส. ชง ก.คลัง ขอขยายเพดานสินเชื่อรายย่อยกรณีฉุกเฉินเพิ่ม หลังวงเงินก้อนแรกกำลังจะเต็ม 5 พันล้านบาท

ธ.ก.ส. ชงคลังขอขยายเพดานสินเชื่อรายย่อยให้เกษตรกรและผู้มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงแหล่งเงินในระบบกรณีฉุกเฉินกู้ได้ไม่เกิน 5 หมื่นบาท/ราย คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 0.85 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือน ระยะเวลาการชำระเงิน กู้ยืมสูงสุดไม่เกิน 5 ปี หลังวงเงินก้อนแรกกำลังจะเต็ม 5,000 ล้านบาท

สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ รายงานเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2560 ว่านายนุกูล ปาระชาติ ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. ได้ทำหนังสือถึงกระทรวงการคลัง รายงานความคืบหน้าของโครงการสินเชื่อรายย่อยเพื่อให้เกษตรกรและผู้มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงแหล่งเงินในระบบกรณีฉุกเฉินกู้ได้ไม่เกิน 5 หมื่นบาท/ราย คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 0.85 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือน ระยะเวลาการชำระเงิน กู้ยืมสูงสุดไม่เกิน 5 ปี ซึ่งมีวงเงินปล่อยกู้ 5,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ล่าสุด ธ.ก.ส. ได้อนุมัติสินเชื่อไปแล้วกว่า 5,800 ล้านบาท คาดว่าเร็ว ๆ นี้ จะสามารถอนุมัติสินเชื่อได้เต็มวงเงิน จึงได้ทำเรื่องเพื่อเสนอกระทรวงการคลัง ให้พิจารณาขยายกรอบวงเงินสินเชื่อในโครงการนี้ออกไป เพื่อรองรับกับจำนวนเกษตรกรที่ลงทะเบียนว่ามีปัญหาหนี้นอกระบบอยู่ราว 4.6 แสนราย

สำหรับความคืบหน้าโครงการประกันภัยนาข้าวปี 2560 ยอด ณ เดือน พ.ย. 2560 ธ.ก.ส. ร่วมกับ บริษัทประกันภัย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จ่ายสินไหมทดแทนให้แก่เกษตรกรที่ทำประกันภัยไว้แล้ว 5.2 หมื่นราย เป็นพื้นที่นาข้าวเสียหาย 4.39 แสนไร่ เป็นเงิน 553 ล้านบาท อย่างไรก็ดีในปีการผลิต 2560 มีเกษตรกรลูกค้าของ ธ.ก.ส. และเกษตรกรทั่วไปเข้าร่วมโครงการประกันภัยข้าวนาปีแล้ว 1.58 ล้านราย คิดเป็นพื้นที่ 23.76 ล้านไร่ ค่าเบี้ยประกันภัยรวมทั้งสิ้น 2,299 ล้านบาท

ด้านนายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่าธนาคารมีผู้มาติดต่อขอเข้าโครงการสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉินจำหน่าย 1.51 แสนราย ซึ่งพิจารณาแล้ว 8.4 หมื่นราย ในจำนวนนี้ได้รับการอนุมัติ 5 หมื่นราย คิดเป็นวงเงิน 2,000 ล้านบาท คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะให้สินเชื่อได้ 1 แสนราย คิดเป็นเงิน 4,200 ล้านบาท ก่อนหน้านี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายให้ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้พ้นความยากจน โดยอาจจะให้ดอกเบี้ยเงินฝากสูงกว่าปกติและให้เข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย รายได้ระยะที่ 2 ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เร่งศึกษาใน 4 ด้าน เพื่อเพิ่มโอกาสด้านต่างๆ ให้กับผู้มีรายได้น้อย ได้แก่ โอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ โอกาสในการศึกษาฝึกอบรมอาชีพ โอกาสในการหางานทำ และโอกาสในการเข้าถึงหรือเป็นเจ้าของปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นกับชีวิต หรือปัจจัย 4 ซึ่งจะมีการนำเสนอ ครม. ในเร็ว ๆ นี้

ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อสอบถามสำนักงาน คปภ.จังหวัดมุกดาหาร เลขที่ 48/5 ถนนเมืองใหม่ ตำบลมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร โทรศัพท์ 042 612 055 และ 042 611 713 E-mail: mukdahan@oic.or.th เว็บไซต์ www.oic.or.th ในวันและเวลาราชการ

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: