สรรพสามิตจ้องคุมเข้ม 'ลานเบียร์' ช่วงเทศกาล

กองบรรณาธิการ TCIJ 24 ธ.ค. 2560 | อ่านแล้ว 1797 ครั้ง

สรรพสามิตจ้องคุมเข้ม 'ลานเบียร์' ช่วงเทศกาล

กรมสรรพสามิตขู่ 'ลานเบียร์' จ้องคุมเข้มช่วงเทศกาลรับลมหนาวเยือนไทย หลังใช้ พ.ร.บ.สรรพสามิต ฉบับใหม่ ที่มาภาพประกอบ: pxhere.com(CC0)

สำนักข่าวไทย รายงานเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2560 ที่ผ่านมาว่านายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า หลังจากกระแสลมหนาวพัดผ่านมาเยือนไทยสร้างบรรยากาศดีหลายภูมิภาคทั้งภาคกลาง เหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้แหล่งท่องเที่ยวตั้งลานเบียร์ สร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวคึกคักมากขึ้น จากโครงสร้างภาษีใหม่กำหนดการขอใบอนุญาตจำหน่ายเครื่องดื่มแอลอกฮอล์รายปี ค่าธรรมเนียม 2,000-3,000 บาทต่อปี จึงสั่งการเจ้าหน้าที่สรรพสามิตลงพื้นที่คุมเข้มการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเขตห้ามหรือไม่ เช่น วัด สถานศึกษา และตรวจดูร้านอาหารขายสุราปลอม สุราหนีภาษีหรือไม่ เพราะในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ยอดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์น่าจะสูงขึ้น

นายกฤษฎา กล่าวว่า ต้องคุมเข้มดูแลสินค้าหลีกเลี่ยงภาษี รวมถึงการดำเนินงานตามมาตรการเชิงรุกในการป้องกันและปราบปรามสุราเถื่อน บุหรี่เถื่อน และน้ำมันเถื่อน ตลอดจนจูงใจผู้ที่อยู่นอกระบบภาษีให้เข้ามาสู่ระบบภาษี และเพื่อเป็นมาตรการเสริมทางอ้อมในการดูแลสุขภาพของผู้บริโภคให้บริโภคสินค้าที่ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากการบริโภคสินค้าที่หลีกเลี่ยงภาษีบางประเภทเป็นสินค้าที่มีคุณภาพต่ำ ซึ่งจะเป็นอันตรายและส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าสินค้าทั่วไป

ทั้งนี้ หลังจากพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2560 ที่ผ่านมา เพื่อปรับปรุงโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ มุ่งเน้นประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีอย่างเป็นระบบ โดยใช้ราคาขายปลีกแนะนำมาเป็นฐานในการคำนวณภาษี จึงจำเป็นต้องกำหนดอัตราภาษีใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับฐานภาษีที่เปลี่ยนแปลงไป จึงอาจเป็นแรงจูงใจทำให้มีปริมาณบุหรี่และสุราหนีภาษีเข้ามาในประเทศมากขึ้น และอาจส่งผลให้ผู้บริโภคหันไปหาสินค้าหนีภาษีมากขึ้น ทำให้รัฐสูญเสียรายได้และเพิ่มความเสี่ยงด้านสุขภาพแก่ประชาชน

หลังจากกำหนดให้ภาคเอกชนกำหนดราคาขายปลีกแนะนำ เพื่อใช้เป็นฐานจัดเก็บภาษี จึงต้องทำการตรวจสอบราคาแนะนำที่เอกชนแจ้งมาเพื่อเสียภาษี หากมีความแตกต่างจากรายอื่นในธุรกิจเดียวกันต้องขอให้ทบทวนราคาปลีกแนะนำเพื่อเสียภาษีใหม่ ยอมรับว่าเป็นเรื่องใหม่ที่ต้องร่วมกันทั้งรัฐและเอกชน เมื่อวันก่อนจึงรับฟังความเห็นจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เพื่อนำข้อร้องเรียนมาปรับปรุงเพิ่มในช่วง 3 เดือนหลังกฎหมายบังคับใช้

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: