กรมธนารักษ์หาผู้ลงทุนพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษหนองคาย มุกดาหาร และตราด อายุสัญญา 50 ปี คาดมีรายได้จากค่าธรรมเนียมเพียง 430 ล้านบาท (ที่มาภาพ: สำนักข่าวไทย)

6 เม.ย. 2559 สำนักข่าวไทย รายงานว่านายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยเมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมาว่ากรมธนารักษ์เดินหน้าพัฒนาพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษบริเวณเขตการค้าชายแดนที่เชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน  และเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ซึ่งก่อนหน้านี้กรมธนารักษ์จัดให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เช่าพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดสระแก้วจำนวน 1 แปลง เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2559 และจะให้ภาคเอกชนเช่าตามเงื่อนไขที่คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษกำหนด ล่าสุดกรมธนารักษ์มีพื้นที่ที่พร้อมดำเนินการเปิดประมูลให้เอกชนเสนอโครงการลงทุนแล้วเบื้องต้น 3 พื้นที่ คือ หนองคาย มุกดาหาร และตราด  คาดว่าจะมีรายได้จากค่าธรรมเนียมตลอดสัญญา 50 ปี  430 ล้านบาท และค่าเช่าประมาณ 64 ล้านบาท  แต่รายได้ไม่ใช่ประเด็นหลัก เพราะต้องการให้ภาคเอกชนมาลงทุน เอสเอ็มอีใช้แรงงานชายแดนร่วมกัน ซึ่งข้อเท็จจริงภาครัฐลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสูงกว่าบางจุดต้องลงทุนนับพันล้านบาท

ทั้งนี้ ยังเหลืออีก 2 พื้นที่อยู่ระหว่างเร่งพัฒนาพื้นที่ คือ จังหวัดสงขลา คาดว่าส่งมอบพื้นที่เดือนพฤษภาคมนี้  ส่วนจังหวัดตากคาดใช้เวลาแก้ปัญหาผู้บุกรุกอีกไม่นาน  ผู้ที่สนใจสามารถยื่นเอกสารประมูลโครงการลงทุนตั้งแต่วันที่ 4 เมษายนจนถึงวันที่ 19 พฤษภาคม 2559 สามารถซื้อเอกสารการลงทุนได้ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายนจนถึงวันที่ 19 พฤษภาคม 2559 ที่กรมธนารักษ์ สำหรับคุณสมบัติของผู้เสนอการลงทุนต้องเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทย มีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท กรณีกิจการร่วมค้าเป็นการร่วมธุรกิจของธุรกิจที่มีมูลค่าทุนจะเบียนรวมกันไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท มีผลงานที่ประสบความสำเร็จย้อนหลังไม่เกิน 3 ปี หรือประสบการณ์ในการพัฒนาที่ดินในลักษณะของนิคมอุตสาหกรรมทั่วไปอย่างน้อย 1 โครงการหรือจะเป็นผลงานคือประสบการณ์ของบริษัทใดบริษัทหนึ่งที่เข้าร่วมธุรกิจก็ได้

สำหรับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษหนองคายมีเนื้อที่ทั้งแปลง 718 ไร่ รัฐบาลมีโครงการรถไฟกรุงเทพฯ-หนองคาย เพื่อรองรับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานภายนอกโครงการ ศักยภาพของที่ดินเป็นช่องทางการค้าขายชายแดนของไทยกับ สปป. ลาวที่มีมูลค่าการค้าชายแดนสูงสุดเมื่อเทียบกับการค้าชายแดนอื่น ๆ และพื้นที่อยู่ใกล้สนามบินอุดรเพียง 60 กิโลเมตร  เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษมุกดาหารเนื้อที่รวม 1,080 ไร่ มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานภายนอกโครงการ  เขตชายแดนมุกดาหารเป็นจุดผ่านแดนถาวรเชื่อมต่อกับแขวงสะหวันนะเขต สปป. ลาว เมืองท่าการค้าระหว่างไทยกับลาวเป็นอันดับ 2 ของประเทศ ศักยภาพของที่ดินอยู่บนแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก ตะวันตก เชื่อมโยงเข้าสู่ลาวและเวียดนามซึ่งเป็นช่องทางที่สำคัญในการขนส่งสินค้าไปยังเวียดนามและจีนตอนใต้  และเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตราด มีเนื้อที่ทั้งแปลง 895 ไร่ มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานภายนอกโครงการ  อยู่ใกล้ด่านชายแดนบ้านหาดเล็กเป็นจุดผ่านแดนถาวรที่เชื่อมต่อเกาะกงประเทศกัมพูชา ศักยภาพของที่ดินอยู่บนแนวระเบียงเศรษฐกิจตอนใต้ เชื่อมโยงถึงท่าเรือแหลมฉบังและท่าเรือสีหนุวิลล์ของกัมพูชาและมีฐานการท่องเที่ยวในพื้นที่และเชื่อมโยงกับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเกาะกงของกัมพูชา

นายจักรกฤศฏิ์ กล่าวว่า  การพัฒนาพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งพัฒนาพื้นที่บริเวณเขตการค้าชายแดนเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียนรองรับเออีซี โดยประกาศเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 10 พื้นที่ ได้แก่ เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก สระแก้ว สงขลา มุกดาหาร ตราด หนองคาย เชียงราย นครพนม กาญจนบุรี และนราธิวาส โดยรัฐบาลมีมาตรการสนับสนุนและส่งเสริมต่าง ๆ เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การให้สิทธิประโยชน์การลงทุนทั้งที่เป็นรูปแบบภาษีและไม่ใช่ภาษีและการตั้งศูนย์บริการเบ็ดเสร็จด้านการลงทุนและมาตรการอำนวยความสะดวกอื่น ๆ