เผยยึดคืนที่ ส.ป.ก. ได้กว่า 1.5 แสนไร่ เป็นที่ 300 ไร่ขึ้นไป 152 แปลงกว่า 1.1 แสนไร่

5 ต.ค. 2559 | อ่านแล้ว 2615 ครั้ง


	เผยยึดคืนที่ ส.ป.ก. ได้กว่า 1.5 แสนไร่ เป็นที่ 300 ไร่ขึ้นไป 152 แปลงกว่า 1.1 แสนไร่

ผลการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) เผยข้อมูลหลังจากที่ยึดคืนพื้นที่ที่ดิน ส.ป.ก. มาแล้วจำนวน 1.5 แสนไร่ โดยเป็นพื้นที่ที่มีขนาดตั้งแต่ 300 ไร่ขึ้นไป จำนวน 152 แปลง 111,642 ไร่ ขนาดไม่เกิน 300 ไร่ 179 แปลง เนื้อที่ 24,063 ไร่ ส่วนการใช้ ม.44 ยึดคืน กรณีพื้นที่เป้าหมายแปลงที่ดินที่มีผู้ครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.เกินกว่า 500 ไร่ ซึ่งมีพื้นที่เป้าหมาย 431 แปลง เนื้อที่ 441,054 ไร่ ใน 27 จังหวัดนั้น มีผู้ยื่นคัดค้าน จำนวน 362,865 ไร่ มีเอกสารคำคัดค้านฟังขึ้นจำนวน 289,428 ไร่ และคำคัดค้านฟังไม่ขึ้น 15,816 ไร่ ยึดคืนมาได้ 151,572 ไร่ และคืนที่ดินให้แก่ผู้ยื่นคัดค้านที่มีหลักฐานตามประมวลกฎหมายที่ดินและหลักฐานการครอบครองเดิม 109,531ไร่ (ที่มาภาพประกอบ: mcot.net)

เว็บไซต์ ฐานเศรษฐกิจ รายงานว่าภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.)เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2559 พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) เปิดเผยผลการประชุม คปก.ว่า หลังจากที่ยึดคืนพื้นที่ที่ดินมาแล้วจำนวน 1.5 แสนไร่ โดยเป็นพื้นที่ที่มีขนาดตั้งแต่ 300 ไร่ขึ้นไปกว่า 1 แสนไร่ เพื่อป้องกันการบุกรุกพื้นที่ซ้ำและสนองนโยบายจัดสรรที่ดินให้กับเกษตรกร ที่ประชุม คปก. จึงอนุมัติหลักการขอใช้งบประมาณจากกองทุนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กรอบวงเงินรวม 960 ล้านบาท ทั้งยังเห็นชอบให้ใช้กองทุนฯเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายตามโครงการจัดซื้อเครื่องหาค่าพิกัดด้วยสัญญาณดาวเทียม GNSS จำนวน 19 ล้านบาท และภาพถ่ายทางอากาศ/ภาพดาวเทียมรายละเอียดสูง 37.14 ล้านบาท ทดแทนเครื่องที่ชำรุดไป เพื่อให้การทำงานของ ส.ป.ก.เกิดความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ด้านนายสรรเสริญ อัจจุตมานัส เลขาธิการ ส.ป.ก. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแปลงที่มีเนื้อที่ขนาดเกินกว่า 300 ไร่ขึ้นไป จำนวน 152 แปลง 111,642 ไร่ ส.ป.ก.จะเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯเพื่อขับเคลื่อนนโยบายและส่งมอบให้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อดำเนินการจัดที่ดินในรูปของสหกรณ์การเกษตร

ส่วนแปลงที่มีเนื้อที่ขนาดไม่เกิน 300 ไร่ ที่มีอยู่ 179 แปลง เนื้อที่ 24,063 ไร่ ส.ป.ก.จะหารือกับรัฐมนตรีฯเพื่อขอดำเนินการจัดให้กับเกษตรกรตามกฎหมายปฏิรูปที่ดินและออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (เอกสาร ส.ป.ก.4-01) ภายใต้หลักเกณฑ์และวิธีการเดียวกันกับการจัดที่ดินของ คทช.เนื่องจากเป็นแปลงที่ดินขนาดเล็ก ไม่เหมาะสมกับการนำเกษตรที่ได้รับการจัดที่ดินมารวมกลุ่มจัดตั้งเป็นสหกรณ์การเกษตรและอาจเกิดปัญหาในการบริหารจัดการในอนาคต

สำหรับพื้นที่ที่ยึดคืนจากผู้ครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ส.ป.ก. ได้รุกงานพัฒนาพื้นที่ยึดคืน ประกอบด้วย 1.แปลงที่ 14 ในจังหวัดกาญจนบุรี (แปลงที่ดินนางสาวเพียงใจ หาพาณิชย์) เนื้อที่ 1,263 ไร่ ในจังหวัดกาญจนบุรี จากการหารือเบื้องต้นจะดำเนินการส่งเสริมให้เกษตรกรมีอาชีพการเลี้ยงแพะเป็นอาชีพหลัก โดยดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้แก่เกษตรกร 96 รายๆละ 3 ไร่ต่อครอบครัว ซึ่งมีการสร้างที่อยู่อาศัยและคอกแพะ เนื้อที่ 288 ไร่ พร้อมทั้งกันพื้นที่ปลูกแปลงหญ้ารวมจำนวนไม่น้อยกว่า 420 ไร่ มีพื้นที่ส่วนกลาง เนื้อที่ 430 ไร่ พื้นที่สาธารณะและอื่นๆเนื้อที่ 125 ไร่

2.แปลงที่ดินของนายชูเกียรติ ตั้งพงษ์ปราชญ์ เนื้อที่ 1,028 ไร่ อยู่ในพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดิน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยเจ้าหน้าที่พร้อมเข้าดำเนินการปิดป้ายคำบังคับคดี เป็นพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินขนาดใหญ่ตั้งแต่ 500 ไร่ขึ้นไป ที่ดำเนินการตรวจสอบและยึดคืนตามคำสั่งของ คสช.ที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาคดีถึงที่สุด

และ 3.แปลงที่ดินนายสุทัศน์ คุณรักษ์พงศ์ (แปลงที่ 1 เนื้อที่ 715-1-10 ไร่ และแปลงที่ 2 เนื้อที่ 256-3-73 ไร่) โดยส.ป.ก.ดำเนินคดีฟ้องขับไล่พร้อมเรียกค่าเสียหายประมาณ 4.97 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2553 ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้มีคำพิพากษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2558 ให้ ส.ป.ก.ชนะคดีและให้จำเลยพร้อมบริวารออกไปจากที่ดินพิพาท และชดใช้ค่าเสียหายแก่ ส.ป.ก. ปัจจุบันคดีถึงที่สุดแล้ว โดย ส.ป.ก.สุราษฎร์ธานี ได้นำส่งค่าเสียหายเข้าสู่กองทุนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมแล้ว และแนวทางการแก้ไขของ ส.ป.ก.สุราษฎร์ธานี ได้มีหนังสือขอให้อำเภอชัยบุรี รักษาความสงบเรียบร้อย ตลอดจนทรัพย์สินของทางราชการในพื้นที่

ส่วนผลการตรวจสอบดำเนินการกับผู้ครอบครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ตามคำสั่ง คสช. (ม.44) กรณีพื้นที่เป้าหมายแปลงที่ดินที่มีผู้ครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.เกินกว่า 500 ไร่ ซึ่งมีพื้นที่เป้าหมาย 431 แปลง เนื้อที่ 441,054 ไร่ ใน 27 จังหวัดนั้น มีผู้ยื่นคัดค้าน จำนวน 362,865 ไร่ มีเอกสารคำคัดค้านฟังขึ้นจำนวน 289,428 ไร่ และคำคัดค้านฟังไม่ขึ้น 15,816 ไร่ ยึดคืนมาได้ 151,572 ไร่ และคืนที่ดินให้แก่ผู้ยื่นคัดค้านที่มีหลักฐานตามประมวลกฎหมายที่ดินและหลักฐานการครอบครองเดิม 109,531ไร่ ส่วนที่เหลือ 179,591 ไร่นั้นจะนำเข้าระบบนำพื้นที่ของ ส.ป.ก.มาพัฒนา ต่อไป

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: