ก.ต่างประเทศ ยกเลิกค่าธรรมเนียมวีซ่าญาติผู้ได้รับบาดเจ็บ-เสียชีวิตจากเหตุระเบิดราชประสงค์

19 ส.ค. 2558 | อ่านแล้ว 2870 ครั้ง


	ก.ต่างประเทศ ยกเลิกค่าธรรมเนียมวีซ่าญาติผู้ได้รับบาดเจ็บ-เสียชีวิตจากเหตุระเบิดราชประสงค์

กระทรวงต่างประเทศประกาศยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่าสำหรับญาติผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ ด้าน ททท. รายงานมีสถานทูต 23 ประเทศ ออกคำแนะนำนักท่องเที่ยวชาติตนแล้ว คสช. ขอให้ประชาชนดำเนินชีวิตตามปกติสุขบนพื้นฐานความระมัดระวัง (ที่มาภาพประกอบ: มูลนิธิร่วมกตัญญู)

19 ส.ค. 2559 สืบเนื่องจากเหตุการณ์ระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมานั้น กระทรวงต่างประเทศได้ยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่าสำหรับญาติผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุระเบิด โดยหากญาติผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ต้องการเดินทางมาประเทศไทย ให้แจ้งชื่อของญาติที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อตรวจสอบสิทธิ์ได้ทันที

ททท. รายงานมีสถานทูต 23 ประเทศ ออกคำแนะนำนักท่องเที่ยวชาติตนแล้ว

ไทยรัฐออนไลน์รายงานว่าเมื่อ 18 ส.ค. นายศุกรีย์ สิทธิวนิช รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้ประชุมศูนย์ปฏิบัติการวางแผนท่องเที่ยวและศูนย์ปฏิบัติการในภาวะวิกฤติ (ศวก.) ในช่วงเช้าของวันที่ 18 ส.ค. โดยให้เปลี่ยนชื่อจากเดิมมาเป็น ศูนย์ติดตามสถานการณ์ท่องเที่ยว เพื่อทำหน้าที่ประสานงานกับสื่อมวลชนไทยและต่างชาติ และติดตามสถานการณ์ข่าวระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก

ททท.พบว่ามีพื้นที่ข่าวในสื่อไทยและสื่อต่างประเทศในเรื่องนี้จำนวนมาก ซึ่งจะนำไปสู่การวิเคราะห์เพื่อสร้างภาพลักษณ์ และการทำการตลาดนักท่องเที่ยวให้กับประเทศ ภายหลังเหตุการณ์ต่อไป ส่วนผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีแผนมาไทยอาจต้องรอเวลาระยะหนึ่ง เนื่องจากขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปเพราะเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้น 

ขณะเดียวกัน ทาง ททท. ได้ให้สำนักงานทั่วโลก ให้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นข้อเท็จจริง โดยจะยึดจากแถลงการณ์ที่เป็นทางการของกระทรวงการต่างประเทศเท่านั้น ส่วนการออกคำแนะนำนักท่องเที่ยว ณ วันที่ 18 ส.ค. เวลา 11.30 น. สถานเอกอัครราชทูต 23 ประเทศ ที่ออกคำแนะนำนักท่องเที่ยวสำหรับสถานการณ์ดังกล่าว

โดยระดับ 1 ให้รับรู้ว่ามีสถานการณ์เกิดขึ้น 1 ประเทศ ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ ระดับ 2 ให้ใช้ความระมัดระวังตนเอง 12 ประเทศ ได้แก่ เดนมาร์ก สหรัฐฯ ไต้หวัน ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ ญี่ปุ่น เบลเยียม สิงคโปร์ สวีเดน ออสเตรีย มาเลเซีย เกาหลีใต้ ระดับ 3 ให้ใช้ความระมัดระวังอย่างสูง 9 ประเทศ ได้แก่ สหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ อิตาลี รัสเซีย ออสเตรเลีย เยอรมนี นิวซีแลนด์ แคนาดา จีน ส่วนระดับ 4 ทบทวนการเดินทาง มี 1 คือ ฮ่องกง (เฉพาะที่มากรุงเทพฯ) และระดับ 5 ที่ห้ามการเดินทางมาไทย ยังไม่ปรากฏ

ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ ติดตามหาญาติที่สถาบันนิติเวช มีผู้เสียชีวิต 20 ราย

สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยรายงานเมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมาว่าครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ เดินทางมาตามหาผู้สูญหาย และสอบถามรายละเอียดลักษณะของผู้เสียชีวิต โดยหนึ่งในนั้นเป็นชายชาวอินโดนีเซีย ถึงกับทรุดลงทันที เมื่อเห็นภาพเพื่อนสาวที่เดินทางมาเที่ยวประเทศไทยด้วยกัน และอยู่ในสภาพร้องไห้อยู่ตลอดเวลา ขณะที่สาวชาวไทย มาตามหาครอบครัวเพื่อนชาวมาเลเซีย 3 คน ที่มาท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานคร ซึ่งผู้เป็นพ่อและลูกเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ ส่วนเพื่อนผู้หญิง ขณะนี้ยังไม่ทราบว่ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลใดหรือเสียชีวิตแล้วหรือไม่

ด้านพลตำรวจตรีพรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ระบุว่า ขณะนี้มีศพอยู่ที่สถาบันนิติเวชทั้งหมด 17 ราย ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 3 ราย หนึ่งในนั้นเป็นเด็กหญิงยังไม่ทราบสัญชาติ โดยญาติผู้เสียชีวิตได้มายืนยันชื่อแล้วบางส่วน และในจำนวนนี้สามารถยืนยันสัญชาติได้แล้ว เป็นชาวไทย 5 คน ส่วนที่เหลือเป็นชาวต่างชาติ นอกจากนี้ ยังพบเป็นชิ้นส่วนอีก 2 ราย ที่ยังไม่สามารถยืนยันได้ ส่วนญาติหรือครอบครัวที่จะเข้ามาติดตาม ขอให้นำข้อมูล อาทิ ประวัติการทำฟัน รูปร่างลักษณะการแต่งกายมาแจ้งเจ้าหน้าที่ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตส่วนใหญ่ เกิดจากแรงอัดของระเบิด คาดว่าวันนี้ แพทย์นิติเวชจะเร่งตรวจพิสูจน์ทราบสาเหตุการเสียชีวิตทั้งหมดได้ หากตรวจเสร็จสิ้น ก็สามารถนำส่งให้ญาติไปบำเพ็ญกุศลได้ทันที

ส่วนรายชื่อผู้เสียชีวิตทั้ง 20 ราย ได้แก่ นางสาวสุดชาดา นิสีดา ชาวไทย / mr.neoh jaijun ชายชาวมาเลเซีย / Mrs.Lioe Lie Tging หญิงชาวอินโดนีเซีย / ชายไม่ทราบชื่อ / miss.pang.wan chee arcadia ชาวฮ่องกง / หญิงไม่ทราบชื่อ / mra.melisa liu rui chum ชาวสิงค์โปร์ / ชายไม่ทราบชื่อ / นางสาววราภรณ์ ช่างทำ ชาวไทย / นายยุทธณรงค์ สิงห์รอ ชาวไทย / ชิ้นส่วนลำตัวบน / กะโหลกศรีษะ / mr.diei chengi ชาวต่างชาติ / นายสุวรรณ สัตย์มั่น ชาวไทย / gao yuzhu ชาวจีน / miss.lim saw sek ชาวมาเลเซีย / miss chan wingyan vivian ชาวฮ่องกง / หญิงไม่ทราบชื่อ / หญิงไม่ทราบชื่อ / และเด็กหญิงไม่ทราบชื่อ

คสช.สรุปผลการปฏิบัติหน้าที่ขณะที่โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครพร้อมเปิดการเรียนการสอนตามปกติใน 19 ส.ค.

สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยรายงานเมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมาว่าพันเอกวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก และทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. แถลงความคืบหน้าการปฏิบัติงานตลอดทั้งวัน ว่าสถานการณ์โดยรวมอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ โดยเมื่อเวลา 13.20 น. ของวันที่ 18 ส.ค. ได้เกิดเหตุก่อกวนปาระเบิดบริเวณท่าเรือสาทร แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบและรวบรวบวัตถุพยานเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเปิดการเดินเรือได้ตามปกติ ส่วนการตรวจสอบหลักฐานบริเวณแยกราชประสงค์เสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งความเสียหายขององค์พระพรหม และอาคารต่างๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าไปบูรณะฟื้นฟูโดยเร็ว และบริเวณดังกล่าวได้เปิดการจราจรได้ตามปกติแล้ว ส่วนการเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตที่บริเวณแยกราชประสงค์ หากเป็นคนไทยให้ประสานงานกับกรุงเทพมหานคร ส่วนชาวต่างชาติ กระทรวงการต่างประเทศ จะประสานไปยังสถานทูตของประเทศนั้น ๆ

ทั้งนี้จากรายงานของศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยด้านการแพทย์ และสาธารณสุข เมื่อเวลา 12.30 น. ของวันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมาพบผู้รักษาตัวในโรงพยาบาลต่างๆ จำนวน 67 คน พร้อมขอให้ผู้ที่ก่อเหตุยุติการก่อกวนดังกล่าว เพราะจะถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด สำหรับโรงเรียนที่อยู่ในความดูแลของกรุงเทพมหานครจะเปิดทำการเรียนการสอนได้ตามปกติในวันที่ 19 ส.ค. โดยขอให้ประชาชนดำเนินชีวิตตามปกติสุขบนพื้นฐานความระมัดระวัง

แถลงรายละเอียดค่าเยียวยาผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต 

ด้านประชาชาติธุรกิรายงานว่าเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 18 ส.ค. พันเอกวินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำทีมแถลงการเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิต หลังเหตุระเบิดแยกราชประสงค์ โดยกล่าวว่า ข้อมูลผู้เสียชีวิตจำนวน 20 ราย ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บมีจำนวน 118 ราย โดยในจำนวนนี้มีผู้ที่ได้รับการรักษาและได้ออกจากโรงพยาบาลไปแล้วจำนวน 41 ราย ส่วนการดูแลและเยียวยาชาวไทยและต่างชาติที่ได้รับบาดเจ็บมอบหมายให้เป็นกระทรวงการต่างปรเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกรมคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม 

พันเอกวินธัย กล่าวอีกว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตที่เป็นคนไทย สามารถประสานยื่นเรื่องขอรับการเยียวยาได้ที่กรุงเทพมหานคร ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตที่เป็นชาวต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้ติดต่อไปยังสถานทูตต่างๆ หรือสามารถติดต่อมาโดยตรงที่กระทรวงการต่างประเทศ โดยมีค่าตอบแทนผู้เสียหาย ดังนี้

กรมคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม จะจ่ายค่าตอบแทนสำหรับผู้บาดเจ็บเท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 30,000 บาท ค่าฟื้นฟูร่างกายและจิตใจเท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 20,000 บาท ค่าขาดประโยชน์ทำมาหากินวันละ 200 บาท ต่อ 1 ปี ค่าเสียหายอื่นๆ ไม่เกิน 30,000 บาท และค่าห้อง วันละ 600 บาท ต่อปี ในกรณีที่เสียชีวิต ทายาทจะได้รับค่าตอบแทนจำนวน 1 แสนบาท 

สำหรับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จากกองทุนประกันภัยนักท่องเที่ยว ในกรณีที่บาดเจ็บไม่เกิน 1 แสนบาท และกรณีเสียชีวิตไม่เกิน 3 แสนบาท 

ศูนย์เอราวัณสรุปจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บ

ด้าน ศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานครรายงานเมื่อวันที่ 18 ส.ค. ได้สรุปจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 58  (**ข้อมูล ณ วันที่ 18 ส.ค. 58 เวลา 16.00 น.)

 

 

ที่มาข่าวเรียบเรียงจากสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย [1] [2] [3] ไทยรัฐออนไลน์ ประชาชาติธุรกิ ศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานคร

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: