จับงาช้างคา'สุวรรณภูมิ' ขนจากไอวอรี่โคสต์ไปเขมร

28 ก.ค. 2557 | อ่านแล้ว 1230 ครั้ง

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 28 กรกฎาคม นายไพศาล ชื่นจิตร รองอธิบดีกรมศุลกากร และนายธัญญา เนติธรรมกุล รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร แถลงผลการจับกุมขบวนการลักลอบค้างาช้าง รวบผู้ต้องหาชาวต่างชาติ 2 คน คือนายเลือง เตี๋ยน ฟง (Mr.Luong Tien Phong) ชาวเวียดนาม อายุ 62 ปี และนางเฉิน จื้อ เหวิน (Mrs.Chen Zhiyu) ชาวจีน อายุ 23 ปี พร้อมงาช้าง 18 ชิ้น น้ำหนัก 15 ก.ก. และผลิตภัณฑ์ทำจากงาช้าง 587 ชิ้น น้ำหนัก 45 ก.ก. มูลค่าประมาณ 9 ล้านบาท

นายไพศาลเปิดเผยว่า เนื่องจากกรมศุลกากรมีนโยบายด้านการควบคุมทางศุลกากร และปกป้องสังคมอย่างเคร่งครัด ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรเพิ่มความเข้มงวดในการสกัดกั้น ป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าส่งออก หรือนำผ่านซึ่งซากสัตว์ป่า ตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) ที่จะลักลอบนำเข้ามาผ่านทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

กระทั่งเวลา 18.00 น. วันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ศุลกากรร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนปราบปราม และเจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์ป่าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ประสานวางแผนตรวจค้นจับกุมการลักลอบนำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านราชอาณาจักร ซึ่งสัตว์ป่าหรือซากสัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต ได้รับความร่วมมือจากท่าอากาศยานไทย และสายการบินบางกอกแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ PG 909 เนื่องจากตรวจพบกระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสารต้องสงสัย 4 ใบ ที่จะเปลี่ยนเครื่องไปเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา โดยสายการบินดังกล่าว

นายไพศาลกล่าวว่า จากการตรวจค้นพบงาช้างและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากงาช้าง ในกระเป๋าเดินทางทั้ง 4 ใบ โดยมีนายเลือง ชาวเวียดนาม และนางเฉิน ชาวจีนเป็นเจ้าของ จึงควบคุมตัวมาสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้การว่า ได้รับการว่าจ้างจากคนชาวเอเชีย ให้ขนงาช้างดังกล่าวมาจากประเทศไอวอรี่โคสต์ โดยนายเลือง ได้รับค่าจ้าง 500 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนนางเฉินได้รับค่าจ้าง 300 ดอลลาร์สหรัฐ เชื่อว่าทำเป็นขบวนการ โดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน ซึ่งที่ผ่านมามีการจับกุมมาโดยตลอด ส่วนใหญ่งาช้างจะถูกนำมาจากทวีปแอฟริกา

ด้านนายธัญธากล่าวว่า ทางการไทยได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และเข้มงวดป้องกันและปราบปราม เพื่อให้สังคมโลกได้รับรู้ว่าประเทศไทยไม่สนับสนุนการค้าสัตว์ป่าหรือซากสัตว์ แม้จะเป็นการลักลอบขนผ่านทางประเทศไทยก็ตาม ต้องมีการกวดขันจับกุม เพราะเป็นเรื่องขององค์กรระหว่างประเทศ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งกับผู้ต้องหาทั้ง 2 ทราบว่า ของที่พบดังกล่าวเป็นของที่มีเมืองกำเนิดต่างประเทศ เป็นของต้องห้ามต้องจำกัดในการนำเข้าหรือนำผ่าน จึงเป็นของที่ยังไม่อนุญาตนำเข้าหรือนำผ่าน จึงเป็นของอันพึงริบตามกฎหมาย จึงแจ้งข้อหาการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามมาตรา 27 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 และพ.ร.บ.สงวนและคุมครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 รวมทั้ง พ.ร.บ.โรคสัตว์ระบาด พ.ศ.2499 จึงยึดของกลางดังกล่าวมอบให้กรมอุทยานฯ แล้วควบคุมผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดำเนินคดีต่อไป

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: