เพื่อความรู้และความเข้าใจว่า ใครคือ ISIS ในตะวันออกกลาง

โกวิท วงศ์สุรวัฒน์ 27 มิ.ย. 2557


ไอซิส (ISIS) คือชื่อย่อของ Islamic State of Iraq and Greater Syria เป็นขบวนการของบรรดาอาสาสมัครชาวมุสลิมนิกายสุหนี่หลายชาติเข้ามาอยู่รวมกัน เพื่อที่จะช่วยกันสร้างรัฐอิสลามสุหนี่ขึ้นตามแบบของของรัฐอิสลามของกาหลิบแห่งราชวงศ์อุมัยยะฮ์ (Umayyad dynasty) เป็นราชวงศ์ที่มีบทบาทในการปกครองโลกอิสลามในช่วง พ.ศ.1204-1293 ซึ่งถือว่าเป็นยุคทองยุคหนึ่งของอิสลามโดยสามารถปราบปรามมุสลิมชีอะห์ที่มีอาลีและบุตรชื่อฮุสเซนเป็นหัวหน้าได้สำเร็จ

อีทีนี้ท่านผู้อ่านที่เคารพส่วนใหญ่คงมีคำถามว่า นิกายสุหนี่กับนิกายชีอะห์นั้นต่างกันอย่างไร? ทำไมต้องถึงขนาดฆ่าฟันกันเลยหรือ?

ความจริงก็มีข้อแตกต่างปลีกย่อยกันมากมายระหว่าง 2 นิกายนี้ เหมือนกับศาสนาพุทธที่แบ่งออกเป็น 2 นิกายใหญ่ๆ คือ มหายานกับเถรวาท หรือในทางศาสนาคริสต์ก็แบ่งออกเป็น 3 นิกายใหญ่ๆ คือ ออร์โธดอกซ์ คาทอลิก โปรเตสแตนต์ สำหรับทางศาสนาอิสลามการแบ่งแยกระหว่างนิกายหลักที่สำคัญ 2 นิกาย คือ

นิกายสุหนี่ เป็นนิกายที่ชาวมุสลิม (อิสลามคือศาสนาส่วนคนที่นับถือศาสนาอิสลามเรียกว่ามุสลิม) ส่วนใหญ่นับถือ ซึ่งยึดถือในพระคัมภีร์อัลกุรอ่านและฮะดีษ (จริยวัตรของศาสดามุฮัมมัดและแบบอย่างของสาวกเป็นหลัก)

แนวความคิดของนิกายสุหนี่ คือ เชื่อว่าศาสดามุฮัมมัดมิได้แต่งตั้งตัวแทนไว้ก่อนที่ท่านจะจากไป

ดังนั้น หลังจากท่านจากไปแล้วตำแหน่งผู้ปกครองหรือผู้นำสืบต่อจากท่านจึงเป็นหน้าที่ของมุสลิมต้องเลือกสรรกันเองตามความเหมาะสม

นิกายชีอะห์ เป็นนิกายที่มีความเชื่อมั่นในเอกภาพของพระเจ้ายึดมั่นในอัลกุรอ่านและจริยวัตรของศาสดามุฮัมมัด และบรรดาอิหม่ามผู้บริสุทธิ์

นิกายชีอะห์เชื่อว่าศาสดามุฮัมมัดได้แต่งตั้งตัวแทน (อิหม่าม) ให้เป็นผู้สืบทอดเจตนารมณ์ของท่านตาม พระบัญชาของพระเจ้าไว้ก่อนที่ท่านจะจากไป ซึ่งถือว่าอาลีบุตรเขยของศาสดามุฮัมมัดและเชื้อสายของท่านอาลีเป็นผู้นำสืบต่อไป

ครับ! ตอนนี้ทั้งรัฐบาลของอิรักกับของซีเรียนั้นพวกมุสลิมนิกายชีอะห์เป็นรัฐบาลยังไงละครับ ตามประวัติศาสตร์เรื่องมันเป็นอย่างนี้คือเมื่อ พ.ศ.1181 หลังจากศาสดามุฮัมมัดสิ้นพระชนม์ได้ 6 ปี กองทัพมุสลิมก็ทะยานออกจากคาบสมุทรอาระเบียเข้ายึดครองกรุงเยรูซาเล็มได้และขยายตัวออกไปอย่างรวดเร็วเข้ายึดอียิปต์ ซีเรีย ลิเบีย เมโสโปเตเมีย (อิรัก) อาร์เมเนีย และเปอร์เซีย (อิหร่าน) ในเวลาต่อมา

เมื่อมีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลในเวลาอันรวดเร็ว จึงเกิดการแย่งกันเป็นกาหลิบ (ประมุขทั้งทางจักรวรรดิและทางศาสนาในเวลาเดียวกัน) ซึ่งทำให้อิสลามแตกเป็นนิกายสุหนี่กับนิกายชีอะห์ ซึ่งทางนิกายสุหนี่เป็นพวกส่วนใหญ่ได้ยกผู้ปกครองซีเรียผู้มาจากตระกูลอุมัยยะฮ์ขึ้นเป็นกาหลิบ

แต่อีกฝ่ายหนึ่งคือนิกายชีอะห์ต้องการให้หลานชายของศาสดามุฮัมมัดคืออิหม่ามฮุสเซน ผู้เกิดจากนางฟาติมะบุตรสาวของศาสดามุฮัมมัด จึงเกิดการรบกันขึ้นบรรดาทหารและอิหม่าม ฮุสเซนเสียชีวิตในการรบหมด

โดยต่อมาจักรวรรดิอาหรับอิสลามได้แพร่ขยายออกไปทั้ง 3 ทวีป โดยสามารถยึดครองสเปนในยุโรปตอนใต้ได้ ทำให้สเปนกลายเป็นแหล่งที่เจริญที่สุดในยุโรปในยุคมืด โดยสเปนเป็นแหล่งที่อารยธรรมอิสลามเปล่งประกายเป็นประทีปของยุโรปในขณะนั้น

และเมืองคอร์โดบาในสเปนคือแหล่งของวิชาความรู้อันเป็นที่มาของการฟื้นฟูศิลปวิทยา (Renaissance) ของยุโรปในเวลาต่อมา

นี่แหละคือที่มาของอุดมการณ์การสร้างรัฐอิสลามสุหนี่ขึ้นที่ซีเรียและอิรักให้ได้เหมือนมุสลิมในสมัยกาหลิบแห่งอุมัยยะฮ์ โดยบรรดาพวกไอซิสนี้ประกอบด้วยมุสลิมจากประเทศอาหรับหลายประเทศและมุสลิมจากยุโรปทั้งตะวันตกและตะวันออกและมุสลิมสุหนี่จากหลายแห่งแม้แต่จากสหรัฐอเมริกา

อีทีนี้เมื่อคนเรามีอุดมการณ์อันแรงกล้า มีเป้าหมายที่แจ่มชัด มีศรัทธาที่ชัดแจ้งย่อมไม่เกรงต่อความตาย ดังนั้นนักรบของไอซิสประมาณว่ามีกำลังพล 6,000 คนเศษจึงมีระเบิดแบบพลีชีพผูกตรึงติดตัวตลอดเวลา แบบว่าพร้อมที่จะตายเพื่ออุดมการณ์และต้องเอาศัตรูให้ตายด้วยกันให้มากที่สุด และเมื่อรบก็ใช้วิธีโหดร้ายกวาดล้างและฆ่าทิ้งโดยไม่ยอมจับเชลยเป็นๆ เลย

ดังนั้น จึงสามารถขยายอำนาจเข้ายึดครองอิรักได้อย่างรวดเร็วกำลังรุกคืบเข้าไปยังเมืองบาคูบาในจังหวัดดิยาลา ห่างจากกรุงแบกแดด เมืองหลวงอิรักไปทางเหนือเพียงแค่ 50 กิโลเมตรเท่านั้น

เป้าหมายของกลุ่มไอซิส คือเข้ายึดกรุงแบกแดดให้ได้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้กลุ่มไอซิสได้ยึดเมืองโมซุลอันเป็นเมืองสำคัญทางตอนเหนือและเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของอิรักที่เป็นแหล่งขุดเจาะน้ำมันที่สำคัญที่สุดของอิรักด้วย มิหนำซ้ำยังยึดเมืองติกริตบ้านเกิดของซัดดัม ฮุสเซน อดีตผู้นำเผด็จการอิรักผู้ล่วงลับไว้ได้แล้วด้วย ทำเอารัฐบาลชีอะห์ของอิรักต้องลนลานร้องขอความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกาและอิหร่านที่เป็นรัฐอิสลามชีอะห์ด้วยกันโดยด่วน

ความจริงปัญหาของตะวันออกกลางทุกวันนี้มีมาจากรากเหง้าของจักรวรรดินิยมของชาวยุโรปในศตวรรษที่ 19-20 ทั้งสิ้นแล้วโดยการแบ่งสรรดินแดนที่เป็นส่วนของอาณาจักรออตโตมานในตะวันออกกลางที่เรียกว่า Levant คือดินแดนประกอบด้วย ซีเรีย เลบานอน อิสราเอล จอร์แดน และปาเลสไตน์ ภายหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ระหว่างอังกฤษและฝรั่งเศส โดยอังกฤษก็ยึดเอาอิรักไปด้วย ซึ่งการแบ่งกันนั้นก็เหมือนกับที่บรรดามหาอำนาจยุโรปเคยแบ่งดินแดนกันในทวีปแอฟริกาคือแบ่งกันบนโต๊ะอาหาร โดยนำแผนที่มาขีดแบ่งเส้นเขตแดนกันเองโดยไม่ได้คำนึงถึงผู้คนในดินแดนเหล่านั้นเลยจึงเกิดปัญหาจากการรวมเอาศัตรูคู่อาฆาตมารวมอยู่ด้วยกันแบบสุหนี่กับชีอะห์และยังมีพวกเคิร์ดอยู่อีก

มิหนำซ้ำอังกฤษยังให้พวกยิวกลับเข้ามาอยู่ในดินแดน Levant นี้อีกด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุเรื้อรังที่ชาวตะวันออกกลางและแอฟริกาที่ยังสู้รบหาความสงบไม่ได้จนทุกวันนี้

ยิ่งกว่านั้นสหรัฐอเมริกาก็เข้ามาเป็นลูกพี่ใหญ่แทรกแซงในดินแดนตะวันออกกลางนี้ต่อจากพวกยุโรป เนื่องจากมีความประสงค์ในน้ำมันที่มีอยู่อย่างมหาศาลในภูมิภาคนี้ (ดินแดนที่เรียกว่า Levant นี่เองที่เป็นชื่อเดิมของ ISIS ที่เคยมีชื่อว่า ISIL แต่เนื่องจากบรรดาผู้นำของไอซิสเห็นว่าจะเปิดศึกหลายด้านเกินไปเลยจำกัดพื้นที่ไว้แค่อิรักกับซีเรียเท่านั้นจึงเป็นที่มาของไอซิส หรือ ISIS นั่นเอง)

ครับ! เรื่องอิรักและซีเรียจะจบลงอย่างไรคงต้องคอยเฝ้าดูกันต่อไป การที่เขียนบทความเรื่องนี้ขึ้นมาก็เพื่อความเข้าใจในการเกิดขบวนการไอซิสว่าเกิดขึ้นมาและเติบใหญ่มาได้อย่างไรและเพื่อที่จะชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของวิชาประวัติศาสตร์ซึ่งในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจะละเลยไปเสียไม่ได้เลยเพราะไม่เช่นนั้นแล้วก็จะเป็นเหมือนที่นายจอร์จ สันทยานะ นักปรัชญานามอุโฆษเคยเตือนสติไว้ว่า "Those who cannot remember the past are condemned to repeat it."

แปลว่าผู้ที่ไม่จดจำประวัติศาสตร์ต้องถูกสาปแช่งให้ทำความผิดเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

ที่มา: มติชนรายวัน 25 มิถุนายน 2557

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ

  

Like this article:
Social share: