ชี้คอร์รัปชั่นกระทบศก.โต แนะจับตาแผน2.4ล้านล้าน

2 ต.ค. 2557 | อ่านแล้ว 431 ครั้ง

สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) นำเสนอผลการวิจัยเรื่องคอร์รัปชั่นกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดย นายพรเทพ เบญญาอภิกุล จากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ศึกษาวิจัย กล่าวว่า จากการทบทวนการศึกษาเกี่ยวกับคอร์รัปชั่นที่ผ่านมา พบว่า การคอร์รัปชั่นส่งผลกระทบในรูปแบบต่างๆ ที่มีนัยต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ 5 ลักษณะ

ประการแรกคือทำให้บทบาทของรัฐผิดเพี้ยน เช่น ก่อให้เกิดการใช้จ่ายที่ไม่เหมาะสม หรือการรั่วไหลของภาษี ข้อสอง กระทบต่อการลงทุนของภาคเอกชน เพราะทำให้ต้นทุนการทำธุรกิจเพิ่มขึ้น เท่ากับเป็นการลดแรงจูงใจในการลงทุน ข้อสาม ส่งผลกระทบต่อระบบตลาดและการจัดสรรทรัพยากร เนื่องจากทำให้การจัดสรรทรัพยากรบิดเบือนไปตามแรงจูงใจจากการคอร์รัปชั่น

ประการที่สี่ การคอร์รัปชั่นส่งผลสะท้อนกลับให้เกิดการเพิ่มขึ้นของการคอร์รัปชั่น และประการสุดท้าย การคอร์รัปชั่นสร้างผลกระทบอื่นๆ ต่อการเติบโตในความหมายกว้าง เช่น การเติบโตอย่างไม่เท่าเทียม ความเชื่อถือในสถาบันรัฐลดลง เป็นต้น

         “ผลสำคัญที่สุดของงานศึกษาชิ้นนี้ ช่องทางการคอร์รัปชั่นที่ส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจช่องทางใดเป็นช่องทางสำคัญ พบว่า การคอร์รัปชั่นส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจผ่านช่องทางการลงทุน 7.71 เปอร์เซ็นต์ ผ่านความไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง 8.91 เปอร์เซ็นต์ ผ่านสาธารณูปโภคพื้นฐาน 43.75 เปอร์เซ็นต์ และผ่านช่องทางอื่น ๆ 40.36 เปอร์เซ็นต์ ตรงนี้จะทำให้เราสามารถพุ่งความสนใจได้ว่า เวลาที่ต้องการดูการคอร์รัปชั่นที่กระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ เราควรใส่ใจที่จุดไหน จุดไหนที่มีการรั่วไหลมาก”

นายพรเทพกล่าวว่า แผนโครงสร้างพื้นฐาน 2.4 ล้านล้านบาทที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้อนุมัติไปก่อนหน้านี้ ก็เป็นสิ่งที่จะต้องจับตาดูเป็นพิเศษ เพราะจากการศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าโครงสร้างพื้นฐานเป็นช่องทางที่การคอร์รัปชั่นจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจมากที่สุด

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai

 

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ

  

Like this article:
Social share: