คสช.ผ่าตัดใหญ่'ตำรวจ'  รื้อหลักเกณฑ์ตั้งผบ.ตร.

15 ก.ค. 2557 | อ่านแล้ว 782 ครั้ง

เมื่อวันที่ 14 ก.ค. หนังสือพิมพ์ข่าวสดรายงานว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกประกาศฉบับที่ 88/2557 เรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยตำรวจแห่งชาติ โดยเห็นสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยตำรวจแห่งชาติเพื่อปรับปรุงระบบการบริหารงานบุคคลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ให้เกิดประสิทธิภาพ คล่องตัว เชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานด้านความมั่นคง ยุติธรรม ส่งผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาความสงบเรียบร้อย ความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน จึงมีประกาศดังนี้

1.ยกเลิกความ ม.17 พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 และให้ข้อความต่อไปนี้ ม.17 ให้ก.ต.ช.ประกอบด้วย (1) นายกฯเป็นประธาน (2) รองนายกฯ ซึ่งนายกฯมอบหมายเป็นรองประธาน (3) ปลัดฯกลาโหม มหาดไทย ยุติธรรม ผอ.สำนักงานงบประมาณ เป็นกรรมการ โดยตำแหน่ง (4) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิได้รับเลือกจากวุฒิสภา 2 คน ให้ผบ.ตร.เป็นกรรมการและเลขานุการ และให้ประธานโดยคำแนะนำของผบ.ตร. แต่งตั้งข้าราชการตำรวจยศ พล.ต.ต.ขึ้นไปไม่เกิน 2 คนเป็นผู้ช่วยเลขานุการ

2.ยกเลิกความ (3) ม.18 พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ใช้ความต่อไปนี้ (3)พิจารณาคัดเลือกข้าราชการตำรวจเพื่อแต่งตั้ง ผบ.ตร. ตามที่ ผบ.ตร.เสนอ

3.ยกเลิกมาตรา 30 พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ให้ใช้ข้อความ “มาตรา 3 ให้มีคณะกรรมการข้าราชการตำรวจคณะหนึ่ง เรียกย่อว่า ก.ตร. ประกอบด้วย (1) นายกฯเป็นประธาน (2) ผบ.ตร.เป็นประธาน (3) เลขา ก.พ. จเรตำรวจแห่งชาติ รองผบ.ตร. เป็น ก.ตร. (4) ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้รับการคัดเลือกจากวุฒิสภา 2 คน ให้ผู้บัญชาการสำนักงานข้าราชการตำรวจเป็นเลขานุการ และรองผู้บัญชาการฯ เป็นผู้ช่วยเลขานุการ

4.ยกเลิกความใน (1) ม.53 พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 (1) การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งตามมาตรา 44 (1) ให้ผบ.ตร. คัดเลือกรายชื่อข้าราชการตำรวจที่เป็นจเรตำรวจแห่งชาติ หรือรองผบ.ตร. แล้วเสนอก.ต.ช.เพื่อพิจารณาเห็นชอบ แล้วให้นายกฯนำกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง

5.ให้ยกเลิกความในม.54 พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ใช้ความต่อไปนี้ ม.54 การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ ม.44 (5) ลงมา ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังนี้

(1) การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งตาม ม.44 (5) และ (6) ให้ดำเนินการดังนี้ (ก) ในสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ผบ.ตร. คัดเลือกรายชื่อข้าราชการตำรวจในสำนักงานฯ เสนอก.ตร. พิจารณาเห็นชอบ แล้วให้นายกฯนำกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง (ข) ในกองบัญชาการที่ไม่ได้สังกัดสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ผบ.คัดเลือกรายชื่อข้าราชการตำรวจในกองบัญชาการนั้นเสนอ ผบ.ตร. พิจารณาเสนอ ก.ตร. เห็นชอบก่อน แล้วให้นายกฯนำกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง

(2) การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ให้ดำรงตำแหน่งตามม.44 (7) และ (8) ดำเนินการดังนี้ (ก) ในสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ผบ.ตร. คัดเลือกรายชื่อข้าราชการตำรวจในสำนักงานฯ เสนอ ก.ตร. เพื่อพิจารณาเห็นชอบก่อน แล้วให้ ผบ.ตร.ออกคำสั่งแต่งตั้ง (ข) ในกองบัญชการ ในกองบัญชการที่ไม่ได้สังกัดสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ผบ.คัดเลือกรายชื่อข้าราชการตำรวจในกองบัญชาการนั้นเสนอ ผบ.ตร. พิจารณาเสนอ ก.ตร. เห็นชอบก่อน แล้วให้ผู้บัญชาการเป็นผู้ออกคำสั่งแต่งตั้ง

(3)การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งตาม ม.44 (9) ลงมา ในสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ผบ.ตร เป็นผู้สั่งแต่งตั้ง ส่วนในกองบัญชาการที่ไม่ได้สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ผู้บัญชาการเป็นผู้สั่งแต่งตั้ง ในกรณีที่เป็นการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแนห่งจากส่วนราชการหนึ่งไปอีกส่วนราชการหนี่ง ให้หัวหน้าส่วนราชการตกลงกัน แล้วให้หัวหน้าส่วนราชการที่ประสงค์จะแต่งตั้งเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการตาม (1) (2) หรือ (3) แล้วแต่กรณี

6.ให้ยกเลิกความใน ม.33 ถึง ม.41 ม.55 และม.57 วรรค 2 และวรรค 3 พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 7.ให้ ก.ต.ช.และก.ตร. ซึ่งดำรงตำแหน่งก่อนประกาศใช้บังคับพ้นจากตำแหน่ง 8.ในระหว่างที่ยังไม่มีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามม.87 (4) ให้ก.ต.ช. ประกอบด้วย นายกฯเป็นประธาน รองนายกฯซึ่งนายกฯมอบหมายเป็นรองประธาน ปลัดฯกลาโหม มหาดไทย ยุติธรรม และผอ.สำนักงบประมาณ เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง และให้ผบ.ตร.เป็นกรรมการและเลขานุการ 9.ระหว่างที่ยังไม่มีกรรมการข้าราชการตำรวจผู้ทรงคุณวุฒิตามม.30 (4) ให้ก.ตร. ประกอบด้วย นายกฯเป็นประธาน ผบ.ตร.เป็นรองประธาน เลขาก.พ. จเรตำรวจฯ และรองผบ.ตร.เป็นกรรมการ 10.การใดอยู่ระหว่างดำเนินการตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับแต่การดำเนินการยังไม่แล้วเสร็จ ให้ก.ต.ช.ตามข้อ 1 หรือ ก.ตร.ตามข้อ 3 แล้วแต่กรณีพิจารณาดำเนินการตามสมควร ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

นอกจากนี้ คสช.ยังมีคำสั่งที่ 87 โดยมอบหมายให้นายกรัฐมนตรี ร่วมกับรมว.มหาดไทย มีอำนาจในการควบคุมดูแลพ.ร.บ. 3 ฉบับ มีพ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง พ.ร.บ.จราจร และพ.ร.บ.อาวุธปืน

ผู้สื่อข่าวข่าวสดรายงานด้วยว่า สำหรับการแต่งตั้งผบ.ตร.ตามกฏหมายเดิมนั้น กำหนดให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอชื่อต่อที่ประชุมก.ต.ช. ตามคำสั่งคสช.ฉบับนี้ เป็นการแก้ไขให้ผบ.ตร.คนปัจจุบันเป็นผู้เสนอชื่อผบ.ตร.ใหม่ เท่ากับทำให้ผบ.ตร.คนปัจจุบันมีความศักดิ์สิทธิ์มากยิ่งขึ้น ส่วนคุณสมบัติผู้จะขึ้นเป็นผบ.ตร.ตามกฏหมายเดิมเขียนกว้างๆ ว่ามาจากข้าราชการตำรวจยศพล.ต.อ.เท่านั้น แต่คำสั่งคสช.แก้ไขใหม่ให้แคบลง เหลือแค่รองผบ.ตร. และจเรตำรวจแห่งชาติ หรือเฉพาะส่วนบริหารเท่านั้น โดยส่วนที่ถูกตัดออกไป ประกอบด้วย ที่ปรึกษา (สบ10) จำนวน 5 คน และหน.นรป.

ขอบคุณข่าวจากข่าวสด

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ

  

Like this article:
Social share: