เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.นายกมล รอดคล้าย รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าเกี่ยวกับการปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง ตามข้อเสนอของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า คณะกรรมการพัฒนาการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง ซึ่งมีนายวินัย รอดจ่าย ประธานกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เป็นประธาน ได้นัดประชุมวันศุกร์ที่ 13 มิ.ย.นี้ เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินงานตามนโยบายของ คสช. โดยเบื้องต้น สพฐ.วางกรอบการดำเนินงานแบ่งเป็น 3 เรื่อง
รองเลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่า ประกอบด้วย 1.แยกวิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมืองเป็นวิชาเฉพาะ เหมือนกับวิชาภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ในส่วนของวิชาประวัติศาสตร์ ที่จากเดิมอยู่ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา จะแยกออกมาเป็นวิชาประวัติศาสตร์ ขณะที่หน้าที่พลเมืองซึ่งแทรกอยู่กับวิชาสังคมศึกษา จะแยกออกมาเป็นวิชาหน้าที่พลเมือง โดยกำหนดให้ทั้ง 2 วิชามีชั่วโมงเรียนวิชาละ 1 คาบต่อสัปดาห์ แต่ทั้งนี้นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการ กพฐ.ได้มอบนโยบายเพิ่มเติมว่า การแยกชั่วโมงเรียนจะต้องไม่กระทบกับนักเรียน 2.ปรับปรุงเนื้อหาและทบทวนจุดเน้นให้ชัดเจน เพราะที่ผ่านมาการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ ยุคสมัย ประวัติความเป็นมา และประวัติการสร้างชาติ ซึ่งจุดเน้นที่ต้องทำคือให้ความสำคัญทั้ง 3 ส่วนเท่ากัน และเน้นประวัติศาสตร์ความเป็นชาติไทยเพิ่มมากขึ้น
และ 3.จัดทำแบบเรียนประวัติศาสตร์ ให้เป็นแบบเรียนหลักของประเทศเช่นเดียวกับแบบเรียนภาษาไทย พร้อมทั้งจัดทำคู่มือประกอบการเรียนการสอน ตลอดจนจัดกิจกรรมที่เน้นความรัก สามัคคี และสมานฉันท์ของคนในชาติ พร้อมกันนี้อาจพิจารณาออกเป็นแนวปฏิบัติหรือประกาศกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กำหนดให้โรงเรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานทุกแห่ง รวมทั้งโรงเรียนนานาชาติที่ไม่เคยเน้นเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ จัดการเรียนการสอนวิชานี้ด้วย ส่วนวิชาหน้าที่พลเมืองจะกำหนดให้เน้นสอนเรื่องสิทธิหน้าที่ การเคารพสิทธิของผู้อื่น ความมีวินัย ซื่อสัตย์ สุจริต และไม่คอร์รัปชั่น อย่างไรก็ตาม กรอบที่ สพฐ.เสนอนี้อาจเปลี่ยนแปลงไปตามความเห็นของคณะกรรมการฯ
รองเลขาธิการกพฐ.กล่าวด้วยว่า หลังจากประชุมในวันที่ 13 มิ.ย.นี้แล้ว สพฐ.จะเชิญนักวิชาการและนักประวัติศาสตร์มาร่วมเสวนาเพื่อนำตำรามาชำระ พร้อมจัดทำคู่มือการเรียนการสอน และวางโครงร่างให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน จากนั้นภายในเดือน ก.ย.จะจัดพิมพ์ตำราเรียนฉบับลำลอง ก่อนชี้แจงศึกษานิเทศก์และอบรมครู เพื่อให้ทันใช้ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557
ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ