สื่อเขมรเปิดโปงค้าไต ในร.พ.เอกชนของไทย

TCIJ 5 ก.ค. 2557 | อ่านแล้ว 9173 ครั้ง

สื่อกัมพูชาเปิดโปงค้าไตมนุษย์ส่งให้โรงพยาบาลเอกชนไทย แพทยสภา-กระทรวงสาธารณสุข เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง

สื่อกัมพูชา แคมโบเดีย เดลี่ เปิดโปงการค้าไตมนุษย์ส่งมายังโรงพยาบาลในประเทศไทยว่า เมื่อคืนวันที่ 1 กรกฎาคม ทางตำรวจกัมพูชาได้จับกุมนางสาวเยม อาซิซาห์ หรือซินวน อายุ 29 ปี และนายเนม พาลลา อายุ 40 ปี พ่อเลี้ยงของนางสาวเยม ทั้งคู่เป็นนายหน้าลักลอบค้าไตรายใหญ่ โดยเปิดร้านกาแฟบังหน้า ในกรุงพนมเปญ ทั้งคู่รับสารภาพว่าเป็นนายหน้าคอยติดต่อหาซื้อไตให้กับผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่รอการเปลี่ยนไตในเมืองไทย โดยนายเนมทำหน้าที่จัดทำเอกสารปลอมเรื่องการบริจาคไต

ตำรวจกัมพูชากล่าวว่า การจับกุมมีขึ้นหลังนายเมาต์ สาธิริน วัย 23 ปี ญาติของนางสาวเยม เหยื่อ 1 ใน 5 ราย ที่ถูกชักชวนให้ขายไตได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ หลังเดินทางมาผ่าตัดไตที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน และได้รู้ความจริงจากคนไข้หญิงคนหนึ่งที่รอรับไตของเขาในโรงพยาบาลว่า ได้จ่ายเงินซื้อไตในราคา 10,000-13,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.2-4.16 แสนบาท) แต่นางสาวเยมกลับหลอกว่าขายไตได้ในราคาเพียง 5,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และยังยึดรถจักรยานยนต์ของนายเมาต์ไว้เป็นเครื่องประกัน ทั้งยังไม่ยอมคืนให้เมื่อเดินทางกลับบ้าน

ส่วนเหยื่ออีก 2 รายเป็นน้องชายของนางสาวเยม อีก 1 รายเป็นเพื่อนบ้าน โดยเหยื่อรายหนึ่งมีอายุเพียง 15 ปีเท่านั้น ผู้ต้องสงสัยทั้งคู่ถูกนำตัวขึ้นศาลกรุงพนมเปญเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาแล้วในวันที่ 3 กรกฎาคม และอาจต้องโทษจำคุก 20 ปี

จากข่าวดังกล่าวทำให้ ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา ได้ออกมากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เบื้องต้นทางแพทยสภาได้ติดต่อไปยังโรงพยาบาลที่ตกเป็นข่าวแล้ว และได้รับการแจ้งเบื้องต้นว่าทางโรงพยาบาลไม่ได้ให้การรักษาเปลี่ยนอวัยวะแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ทางแพทยสภาจะมีการตรวจสอบ โดยสืบค้นข้อมูลย้อนหลังการรักษาเปลี่ยนอวัยวะในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาต่อไป

            "หากจะตรวจสอบ ต้องพิจารณาเพื่อหาหลักฐานหลายอย่าง เพราะอาจเกิดจากความขัดแย้งส่วนตัว แล้วมีการให้ข่าวที่เป็นเท็จ หากจะตรวจว่าซื้อขายจริงหรือไม่ ก็ต้องพิสูจน์ว่าเกิดการผ่าตัดขึ้นจริงหรือไม่ แต่ทางแพทยสภาไม่ได้นิ่งเฉยกำลังดำเนินการตรวจสอบเป็นการภายในเพื่อหาหลักฐานอยู่ แต่เท่าที่ผ่านมาแพทย์ในประเทศไทยมักไม่กล้ากระทำผิดในเรื่องการซื้อขายอวัยวะ เพราะต่างทราบกฎหมายและบทลงโทษดี การผ่าตัดส่วนใหญ่จึงทำอย่างถูกต้อง โดยการขอรับอวัยวะที่ได้รับบริจาคผ่านสภากาชาดไทยเท่านั้น" ศ.นพ.สมศักดิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่แพทย์ผ่าตัดโดยพลการหรือมีส่วนรู้เห็นในกระบวนการดังกล่าว นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นไปได้ยาก เนื่องจากการผ่าตัดเปลี่ยนไตเป็นการผ่าตัดใหญ่ ต้องใช้แพทย์และพยาบาลจำนวนมาก ไม่สามารถทำได้โดยไม่มีคนรู้เห็น ปัจจุบันการเปลี่ยนไตมีการทำเพียง 400 ราย อีกทั้งแพทย์ที่ให้การผ่าตัดเปลี่ยนไตก็มีจำนวนน้อย หากมีการเปลี่ยนไตจริงต้องมีแพทย์ที่รับทราบเรื่องดังกล่าว แต่หากแพทย์มีส่วนรู้เห็นจริงจะต้องถูกเพิกถอนใบอนุญาตถาวร

ด้าน น.อ.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรรัตน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า จะต้องทำการตรวจสอบโรงพยาบาลเอกชนที่ปรากฏในข่าว โดยใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 มาตรา  34 วรรค 2 ที่ระบุว่า สถานพยาบาลที่จะเปลี่ยนถ่ายต้องมีผู้ประกอบวิชาชีพที่ผ่านการฝึกอบรม และทำตามมาตรฐานการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะตามข้อบังคับของแพทยสภา ว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2549 หมวด 10 การประกอบวิชาชีพเวชกรรมเกี่ยวกับการปลูกถ่ายอวัยวะ โดยผู้บริจาคต้องทำลายลักษณ์อักษรว่า จะทำการบริจาคในขณะยังมีชีวิต และผู้บริจาคต้องเป็นญาติพี่น้อง สามีภรรยา เท่านั้น เว้นผู้บริจาคที่อยู่ในเกณฑ์สมองตาย จึงจะสามารถบริจาคให้ผู้ที่ไม่ใช่ญาติ

หากมีเปลี่ยนถ่ายไตจริงจะต้องตรวจสอบประวัติของการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะว่ามาจากแหล่งใด ถูกต้องหรือไม่ และตรวจสอบแพทย์ที่ทำการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะด้วย เนื่องจากแพทยสภาได้มีการขึ้นทะเบียนแพทย์ที่สามารถเปลี่ยนถ่ายอวัยวะได้ นอกจากนี้ จะประสานความร่วมมือไปยังแหล่งข่าวของประเทศกัมพูชาว่า ข่าวที่เกิดขึ้นมีความเป็นมาอย่างไร น.อ.ต.นพ.บุญเรือง ยังกล่าวอีกว่า

            “หากตรวจสอบพบว่า มีการกระทำผิดไปจากเกณฑ์มาตรฐานก็จะมีโทษทั้งจำและปรับ รวมทั้งโทษทางจริยธรรม ส่วนกระบวนการซื้อขายจะมีความผิดตามกฎหมายอาญา สำหรับการซื้อขายอวัยวะในประเทศไทย จากการตรวจสอบย้อนหลังไป 10 ปี ไม่พบว่ามีการจับกุมกรณีดังกล่าว แต่พบการเดินทางไปปลูกถ่ายในต่างประเทศ ซึ่งเป็นความสมัครใจและไม่ได้อยู่ในขอบเขตที่กฎหมายในประเทศจะเอาผิดได้ อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบข้อมูลสถานพยาบาลที่มีชื่อตามข่าว คาดว่าจะสามารถทราบรายละเอียดที่ชัดเจนภายในสัปดาห์หน้า”

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: