บีบมูลนิธิสืบต้องย้ายสนง. หมดงบปิดโครงการจอมป่า

12 เม.ย. 2557 | อ่านแล้ว 669 ครั้ง

นายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ให้สัมภาษณ์หลังประชุมคณะกรรมการบริหารมูลนิธิว่า ที่ประชุม ได้แจ้งเรื่องที่ทำให้มูลนิธิต้องปรับตัว และปรับวิธีการทำงาน ที่สำคัญ 2 เรื่องสำคัญมากคือ 1.ทางกรมธนารักษ์ ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินที่มีสำนักงานของมูลนิธิตั้งอยู่  ถ.บำรุงเมือง คลองมหานาค  ป้อมปราบศัตรูพ่าย ติดกับโรงพยาบาลหัวเฉียว ว่า ทางกรมการแพทย์แผนไทยและทางเลือก กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งเป็นผู้ครอบครองที่ดินดังกล่าวอยู่ โดยให้ทางกรมธนารักษ์เป็นผู้ดูแล และให้ทางมูลนิธิเช่า ตั้งสำนักงานมาแล้วกว่า 10 ปี ขอคืนพื้นที่ เพื่อทุบสำนักงานทิ้งทำเป็นที่จอดรถ ทางมูลนิธิ จำเป็นต้อง เร่งหาที่อยู่ใหม่โดยเร็วที่สุด 2.การไม่ต่อสัญญาการทำโครงการจอมป่า กับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพราะมูลนิธิไม่มีงบประมาณสำหรับการทำงานอีกต่อไป

เลขาธิการมูลนิธิ สืบฯ กล่าวว่า ก่อนอื่น มูลนิธิสืบฯจะต้องเร่งหาที่อยู่ใหม่ เพื่อตั้งสำนักงานใหม่โดยเร็ว เพราะเจ้าของที่ต้องการขอพื้นที่คืน โดยที่ผ่านมานั้นทางเจ้าของที่คือกรมธนารักษ์ ก็กรุณาให้เช่าที่ในราคาที่ถูกมาก ๆ มาตลอด 10 ปี เมื่อถึงเวลาที่เจ้าของ ต้องการจะเอาที่คืน ก็ต้องคืนไป ส่วนการทำโครงการ จอมป่าร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาตินั้น มูลนิธิมีความจำเป็นต้องยกเลิก เพราะหากทำต่อไป คงต้องปิดมูลนิธิ เนื่องจากไม่มีงบประมาณที่จะทำต่ออีกแล้ว

นายศศินกล่าวว่า โครงการจอมป่าเป็นโครงการจัดการพื้นที่คุ้มครองอย่างมีส่วนร่วม เป็นวิธีทำการแบบใหม่ คือใช้คนกลางที่เป็นเอ็นจีโอ ทำงานระหว่างระหว่างชาวบ้านกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เป้าหมายทำให้เกิดการมีส่วนร่วมจาก 3 ฝ่าย คือ เจ้าหน้าที่รัฐ ชาวบ้าน และมูลนิธิสืบฯ ในเวทีการปรึกษาหารือ สร้างกระบวนการสำรวจพื้นที่ การยอมรับต่อกัน และการถ่ายทอดความรู้ของฝ่ายรัฐในระบบการจัดทำแผนที่ให้ชุมชนได้รับรู้ร่วมด้วย ได้ทำบันทึกข้อตกลงการทำงานร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พัฒนาโครงการร่วมกับกรมป่าไม้ เพื่อตกลงทำงานในพื้นที่คุ้มครอง 17 พื้นที่ทั้งเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และอุทยานแห่งชาติ ต่อเนื่องกันเป็นผืนป่าตะวันตก ในพื้นที่ 6 จังหวัด ตั้งแต่จ.ตาก กำแพงเพชร นครสวรรค์ อุทัยธานี สุพรรณบุรี และ กาญจนบุรี ปัจจุบันได้รับการตอบรับ และเป็นที่ยอมรับทั้งจากชาวบ้านในพื้นที่ และกรมอุทยานอย่างดี

            “แต่สาเหตุที่เราต้องยกเลิกโครงการ เพราะเราไม่มีเงินจะทำงานแล้ว โดยโครงการจอมป่านั้น มูลนิธิได้รับการสนับสนุนจากธนาคารไทยพาณิชย์ และปตท. รวมทั้ง ต้องใช้เงินของมูลนิธิส่วนหนึ่งด้วย โดยแต่ละปีต้องใช้งบประมาณสำหรับทำโครงการประมาณ 10 ล้านบาท เพื่อทำงานกับชุมชน 131 ชุมชนในผืนป่าตะวันตก สำหรับการลาดตระเวณป่าอย่างมีส่วนร่วมของชาวบ้านในพื้นที่กับเจ้าหน้าที่อุทยาน หรือเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า การทำแผนที่ เสบียงอาหาร ของเจ้าหน้าที่ ค่าจัดประชุม ฯลฯ หากทำต่อไป คงต้องปิดมูลนิธิ ซึ่งมูลนิธิต้องรักษาตัวเองเอาไว้ก่อน เพราะยังต้องทำงานด้านการดูแลรักษาป่าอีกมาก” นายศศินกล่าว

เลขาธิการมูลนิธิสืบฯกล่าวว่า แม้ว่ามูลนิธิสืบฯ จะไม่ทำโครงการจอมป่ากับกรมอุทยานฯต่อ แต่ไม่ได้หมายความว่า จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับพื้นที่นี้เลย เนื่องจากพื้นที่ป่าตะวันตกนั้น ทั้งทางกรมอุทยานฯและมูลนิธิสืบฯทำงานร่วมกันมานานนับสิบปี คุ้นเคยและเข้าใจการทำงานร่วมกับชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่อย่างดี รวมทั้งงานที่ทำก็ถือว่าประสบความสำเร็จมาก ไม่มีการขยายพื้นที่ทำกินของชาวบ้านเข้าไปในเขตป่าเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันชาวบ้านก็ช่วยกันดูแลรักษาป่า เป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่อย่างดี ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางกรมอุทยานฯ ซึ่งมีหน้าที่หลักในการดูแลพื้นที่ต้องทำโครงการเองต่อ

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai

 

 

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ

  

Like this article:
Social share: