เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 14 มกราคม ที่ที่ว่าการอำเภอจะนะ จ.สงขลา เครือข่ายจะนะ ซึ่งประกอบด้วยเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น เครือข่ายรักษ์ทะเลจะนะ กลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่งทะเลบ้านสวนกง และประชาชนในพื้นที่ กว่า 30 คน เข้ายื่นหนังสือต่อนายทวีวุฒิ สังข์ศิริ นายอำเภอจะนะ พร้อมอ่านแถลงการณ์เครือข่ายจะนะ หลังจากทราบข่าวว่า จะมีการจัดสัมมนาและรับฟังความคิดเห็นของโครงการศึกษาทบทวนและออกแบบเพื่อก่อสร้างโครงการท่าเรือน้ำลึกสงขลา แห่งที่ 2 ที่ศาลาประชาคมจะนะ อ.จะนะ จ.สงขลา ในวันนี้ และได้มีการขอเลื่อนการจัดการสัมมนาและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งที่ 1 อย่างไม่มีกำหนด

จากนั้น นายทวีวุฒิ สังข์ศิริ นายอำเภอจะนะ ออกมารับหนังสือ พร้อมกล่าวว่า ตนได้ลงไปดูในพื้นที่พอสมควร ได้เห็นว่ามีพี่น้องในพื้นที่หลายคนไม่มีความประสงค์ ที่จะให้โครงการดังกล่าวมาดำเนินการในพื้นที่ แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนทั้งหมด เป็นเรื่องของชาวบ้านที่ไม่ต้องการจะเป็นผู้ตัดสินใจ เมื่อรับหนังสือนี้ไปแล้ว จะแจ้งให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องนำไปพิจารณาต่อไป

ด้านนางสุไรดะห์ โต๊ะหลี เครือข่ายคนจะนะ กล่าวว่า จากที่มีความพยายามของรัฐบาล ที่จะยัดเยียด เมกกะโปรเจกต์สะพานเศรษฐกิจ (Land bridge) สงขลา-สตูล ประกอบด้วย ท่าเรือน้ำลึกสงขลา-สตูล และรถไฟรางคู่ (ใช้ขนส่งสินค้าตู้คอนเทนเนอร์) รวมทั้งให้มีการศึกษาเพิ่มเติมอื่นๆ รวมงบประมาณทั้งสิ้น กว่าหกหมื่นล้านบาท ซึ่งงบประมาณส่วนนี้ซุกอยู่ใน ร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ไม่โปร่งใส หากท่าเรือสงขลาแห่งที่ 2 สตูล (ท่าเรือปากบารา –จะนะ) สร้างสำเร็จ ก็จะนำมาซึ่ง โครงการท่อส่งน้ำมันข้ามคาบสมุทรละงู-สิงหนคร นิคมอุตสาหกรรม มอเตอร์เวย์หาดใหญ่-สะเดา เหมืองลิกไนท์และโรงไฟฟ้าถ่านหินสะบ้าย้อย ระบบระบายน้ำปลักปลิงจะนะ และเขื่อนนาปรัง หลุมขุดเจาะน้ำมัน และโรงถลุงเหล็ก ซึ่งบางโครงการก็เริ่มมีการดำเนินการไปบ้างแล้ว

นางสุไรดะห์กล่าวต่อว่า โครงการดังกล่าวล้วนเป็นโครงการขนาดใหญ่ กำหนดให้ต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) โดยกระบวนการดังกล่าว ไม่ได้มีไว้เพื่อพิทักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน แต่กลับกีดกันการรับรู้ข้อมูล บิดเบือน ให้ข้อมูลโครงการแบบแยกส่วน และที่สำคัญไม่มีการกำหนดกรอบระยะเวลาการจัดทำ สามารถแก้ไขได้ตราบจนรายงานจะผ่าน ดังนั้น EHIA ในประเทศไทยจึงเป็นเพียงพิธีกรรม โดยมีธงการสร้างโครงการต่าง ๆ เป็นเป้าหมายสำเร็จไว้แล้ว

นางสุไรดะห์กล่าวถึงข้อเสนอว่า ทางเครือข่ายจึงมีข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลและข้าราชการ ดังนี้ 1.หยุดการดำเนินการเวทีสัมมนาและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งที่ 1 โครงการศึกษา ทบทวนและสำรวจออกแบบเพื่อการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกสงขลาแห่งที่ 2 ครั้งนี้ เนื่องจากประชาชนในพื้นที่ซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง ไม่ได้ถูกเชิญมาร่วมเวที และไม่ได้รับทราบข้อมูลโครงการดังกล่าวมาก่อน ส่งผลให้ไม่มีข้อมูลในการแสดงความคิดเห็น จึงหมดความชอบธรรมที่จะจัดเวทีต่อไป

2.หยุดดำเนินโครงการ ท่าเรือน้ำลึกสงขลา-สตูล เนื่องจากงบประมาณจาก พ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาทยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาล ฉะนั้นรัฐบาลจึงไม่มีความชอบธรรมในการดำเนินโครงการนี้ต่อ 3.หยุดการดำเนินโครงการศึกษา EHIA ใด ๆ ทั้งที่กำลังดำเนินการอยู่ และที่กำลังจะดำเนินการ เนื่องจากการดำเนินการจัดทำ EHIA ที่ผ่านมา มีการบิดเบือนข้อมูลโครงการ แยกส่วนแต่ละโครงการ ลักลอบทำ กีดกันการรับรู้ข้อมูลและการมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่ แต่กลับเอาคนนอกพื้นที่มาสวมรอยแทนโดยตลอด และจะจัดทำใหม่ได้จนกว่าจะมีการปฏิรูประบบEHIA ของประเทศไทย 4.ต้องปฏิรูประบบ EHIA ของประเทศไทย

5.หากมีการดำเนินการใดๆเกี่ยวกับพื้นที่ในอำเภอจะนะ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องแจ้งให้ประชาชนในพื้นที่ทราบล่วงหน้า ด้วยวิธีการที่สามารถเข้าถึงประชาชนได้อย่างสะดวก

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai