ห่างหายกันไปนานเลยนะคะ แต่หายแล้วไม่หายลับ ยังกลับมาพูดคุยแลกเปลี่ยนกับผู้อ่านเช่นเคยค่ะ
ช่วงที่หายไปดิฉันได้มีโอกาสเดินทางไปประเทศฝรั่งเศส ไม่ได้ตั้งใจไปช็อปปิ้งหรอกค่ะ แต่ไปทำงานในฐานะสื่อมวลชนไทย ตามรอยสถานที่เปี่ยมเสน่ห์ในมหานครปารีส อันเป็นแหล่งบ่มเพาะแรงบันดาลใจให้กับดีไซเนอร์เจ้าของเครื่องสำอางแบรนด์หนึ่ง
การันตีได้เลยว่าปารีส เมืองที่ถูกทับถมไปด้วยศิลปะมาแต่โบราณกาล มองไปทางไหน มุมใด ก็เป็นมุมสวยละมุน ทรงเสน่ห์ เหมือนมองภาพผลงานศิลปะของศิลปินฝีมือชั้นครูอย่างไงอย่างงั้น
ช่างภาพมือสมัครเล่นอย่างดิฉัน ก็เลยหลายเป็นช่างภาพมุมเทพ เพราะไม่ว่าจะส่องเลนส์ไปมุมไหน ภาพก็สวยไปหมด
แม้อยู่บนรถบัสที่กำลังเคลื่อนตัวไปตามถนนริมแม่น้ำแซน กลางเมืองปารีส ที่มีหอไอเฟลยืนเด่นเป็นนางเอก เราก็ได้ภาพเด็ดๆ ของนางเอกคนนี้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ เรียกว่า ถ่ายมาเบลอๆ ก็ยังสวยเลยค่ะ เพราะมันเป็นศิลปะแบบส่วนตั๊วส่วนตัว
เวลา 3 วันเต็มที่อยู่ในปารีส ให้ความรู้สึกเหมือนตอนเราอยู่กรุงเทพบ้านเราในหลายๆ ข้อ ด้วยเพราะขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่เนื้อหอมของโลกเหมือนกัน
ข้อแรก อากาศร้อน ฝรั่งเศสปีนี้ร้อนนาน ช่วงที่ดิฉันเดินทางไปคืนปลายเดือนกันยายน ควรจะเริ่มหนาวได้แล้ว แต่ก็ไม่ พระอาทิตย์ยังขยันขันแข็งเปล่งแสงทองให้นักท่องเที่ยวอย่างเราอดใส่โค้ทสวยกับบูธเก๋ไปตามๆ กัน
ข้อสอง อภิมหาทัวร์จีน ถ้าหลับตาเดินตามห้างดัง ก็คงคิดไปได้ว่ากำลังเดินอยู่เสิ่นเจิ้น เดินเข้าร้านแบรนด์ดังร้านไหน พนักงานผมบรอนด์ก็ทักทายเราว่า “หนีห่าว” จนดิฉันก็แอบคิดไปว่าพี่จีนเขาจะครองโลกเราไหมเนี่ย? พี่แห่กันไปทุกทีเลย แถมไม่ได้เดินถ่ายรูปอัพไอจีสวยๆ นะคะ นักท่องเที่ยวจีนเขาซื้อจริง จ่ายหนัก ซะด้วย
ข้อสุดท้ายท้ายสุด ที่ทำให้เราได้กลิ่นกรุงเทพบ้านเกิดชัดสุด นั่นคือรถติด มาตราการการจัดการกับปัญหานี้ที่รัฐบาลฝรั่งเศสพยายามทำ ที่เราเห็นกับตาตัวเองก็มีทั้งรถใต้ดินที่มีมานานแล้ว บทลงโทษรถที่ผิดกฎจราจรที่หนักหนาและเคร่งครัด เช่น หากจอดในที่ห้ามจอด พี่ตำรวจจะยกรถสถานเดียว และปรับหนักปรับจริง
นอกจากนี้ก็ยังมีบริการจักรยานหยอดเหรียญตามจุดต่างๆ ทั่วเมือง และพฤติกรรมการใช้มอเตอร์ไซค์ของชาวปารีส แถมรถจักรยานยนต์ที่เราเห็นในปารีส เรียกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ เป็นบิ๊กไบค์ทั้งสิ้น มอเตอร์ไซค์คันใหญ่ สวย สมรรถนะสูง และแน่นอน ราคาแพง
นอกจากกฎหมายจราจรที่เคร่งครัดและหนักหนาแล้ว วินัยของชาวปารีสก็เป็นประเด็นสำคัญที่ช่วยแก้ปัญหานี้
ในซอยเล็กๆ กลางปารีสซอยหนึ่ง เราเห็นฝั่งซ้ายจอดจักรยานหยอดเหรียญบริการประชาชนและนักท่องเที่ยวเรียงรายเรียบร้อย ริมถนนอีกฝั่ง บิ๊กไบค์คันงามจอดเรียงรายเป็นระเบียบไม่แพ้กัน ไม่มีจอดเว้นที่ ไม่มีจอดเบี้ยว ไม่มีจอดผิดฝั่ง สะท้อนว่าเมืองเขาเจริญแล้ว และคนเขาก็เจริญแล้ว ขณะเดียวกันก็สะเทือนใจ บ้านเรายังอ่อนวินัยอยู่มากโข
แต่ก็เอาเถอะ อย่างน้อย วันนี้บ้านเราก็ตระหนักและกระตุ้นเตือนกันให้หันมาโดยสารในเมืองที่รถติดติดอันดับโลกด้วยวิธีทางเลือกอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์การขับขี่บิ๊กไบค์ของเหล่าคนมีเงินและรสนิยม กระแสการหันมาปั่นจักรยาน ไม่ว่าจะเพื่อการออกกำลังกาย แฟชั่นการตกแต่งจักรยานคันงามราคาเรือนแสน หรือเพื่อใช้โดยสารในชีวิตประจำวันเพื่อหนีปัญหารถติด
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใด หากเป้าหมายอยู่ปลายทางเดียวกันแล้ว ไม่นานปัญหารถติดบ้านเราก็จะลดลงไปเรื่อยๆ จากการแก้ปัญหาที่จิตสำนึก จิตใจคนเป็นสำคัญ
ส่วนตัวดิฉันเอง จิตสำนึกถูกสั่นสะเทือนด้วยภาพของสาวสวยชาวปารีส หน้าสวย แต่งหน้าครบเครื่อง สวมสูทดำ กางเกงเข้ารูปสีดำ และบูธสั้นส้นเข็มสูงปรี๊ด---ด มืออุ้มหมวกกันน็อกเต็มใบเดินอาดๆ ออกมาจากออฟฟิศ
เธอรวบผมบรอนด์ลอนสวยเรียบร้อย ก่อนจะสวมหมวกกันน็อกให้รัดกุม แล้วควบเจ้าบิ๊กไบค์คันงาม ขยับเขยื้อนเตรียมเดินทางอย่างกระฉับกระเฉง
บรื้น---ๆ เสียงสตาร์ทเครื่องยนต์ทุ้มนุ่ม พร้อมโลดแล่นไปยังเป้าหมาย ลัดเลาะตามตรอกซอกซอยปารีสอย่างคล่องแคล่ว
ภาพนี้ทำให้คำถามเดิมกลับมาวนเวียนหาคำตอบอีกครั้งว่า
“หญิงสาวอย่างเราจะขี่มอเตอร์ไซค์ไปทำงานได้ไหมนะ?”
อุปสรรคแรกของสาวๆ อย่างเราคือ อากาศร้อนคงทำให้เหนื่อยโทรมกาย ตามมาด้วยกลิ่นไม่พึงประสงค์ จนไม่อยู่ในสภาพพร้อมทำงาน หากเป็นผู้ชายคงไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่สำหรับผู้หญิง นี่คือเรื่องใหญ่มาก นี่ยังไม่นับเรื่องแต่งหน้าแล้วหน้าละลายนะคะ
แต่หากที่ทำงานใครมีห้องน้ำที่พอจะอาบน้ำได้ นี่ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย เลือกเฉพาะบางวันที่เราทำงานอยู่ออฟฟิศ ไม่ต้องพบปะผู้คนก็ได้เหมือนกันนะ
แต่ด้วยเส้นทางไปทำงานที่อยู่กลางเมืองสุดๆ ประเมินทักษะการขับมอเตอร์ไซค์แล้ว ชัดเจนว่าหลบสิงห์มอเตอร์ไซค์เจ้าถนนไม่ได้แน่ๆ เอาเป็นว่า ขอเลือกพึ่งพารถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน และพี่วินมอเตอร์ไซค์ในทุกวันทำงานแทนแล้วกัน
ส่วนมอเตอร์ไซค์ดิฉันก็ใช้ไปไหนมาไหนแต่เพียงในซอยใกล้บ้าน ในวันหยุดแทนการใช้รถยนต์ที่ค่อนข้างลำบากเอาการกับการสัญจรในซอยเล็กๆ
เมื่อก่อนก็ใช้จักรยานเหมือนกันนะคะ แต่รู้สึกว่าอันตรายพอสมควร สำหรับซอยเล็กที่รถยนต์สัญจรตลอด ริมขอบทางก็เต็มไปด้วยพี่วินมอเตอร์ไซค์ที่จำลองเป็นสนามแข่งเสียแล้ว จักรยานต้วมเตี้ยมคงจะไหลไปไม่ทันความเร็วของพี่วินฯ เป็นแน่ การขับขี่ยวดยานบนถนนเดียวกัน ด้วยความเร็วที่ต่างกัน นับว่าเป็นอันตรายจริงๆ ค่ะ
จักรยานแม่บ้านคันเก่า เลยได้แต่จอดให้แก่ไปตามกาลเวลา ณ ซอกหลืบของที่จอดรถ
แม้เราจะเจริญรุจหน้า ศิวิไลซ์ไฉไลได้ไม่เท่านานาประเทศแถวหน้าของโลก หากเริ่มที่จิตสำนึกจะช่วยลดปัญหารถติด ลดปัญหามลพิษ ลองพิจารณาตัวเองว่า เราจะปรับพฤติกรรมอะไรได้บ้าง เพื่อช่วยบ้านของเรา
บุญรักษาค่ะ...
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ