เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.ประจวบคีรีขันธ์ว่า เครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมันจ.ประจวบคีรีขันธ์ และภาคีเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน 16 จังหวัดภาคใต้ หลายร้อยคน เดินทางมาชุมนุม เปิดเวทีปราศรัยเรียกร้องรัฐบาลดำเนินการแก้ปัญหาราคายางพารา และปาล์มน้ำมัน บริเวณริมถ.เพชรเกษม กม.ที่ 412-413 บ้านธรรมรัตน์ หมู่ 5 ต.ทองมงคล อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อีกครั้งหลัง จากก่อนหน้านี้มีการชุมนุมเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม และ 14 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยครั้งนี้มีตัวแทนเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนจากภาคใต้ขึ้นเวทีปราศรัยถึงปัญหาราคายางพาราตกต่ำ และโจมตีการทำงานของรัฐบาลที่ให้การช่วยเหลือช้า

นายธีระพงษ์ แก้วนวล ประธานเครือข่ายฯ กล่าวว่า ยังคงเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือราคายางพาราที่กิโลกรัมละ 100 บาท และปาล์มน้ำมันราคากิโลกรัมละ 6 บาท และให้เกษตรกรทุกคนทุกพื้นที่ ทั้งที่มีเอกสารสิทธิ และไม่มีเอกสารสิทธิ ต้องได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลเหมือนกันทั้งหมด รวมถึงให้มีการตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างตัวแทนภาคีเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน 16 จังหวัดภาคใต้ กับรัฐบาล เพื่อร่วมในการแก้ไขปัญหาเรื่องสิทธิที่ดินทำกินให้เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน และเร็วที่สุด

อย่างไรก็ตามตลอดทั้งวัน กลุ่มชุมนุมเปิดเวทีปราศรัยเรียกร้องรัฐบาลดำเนินการแก้ปัญหาราคายางพารา และปาล์มน้ำมัน โดยมีแกนนำผลัดกันขึ้นปราศรัย พร้อมยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานราชการออกมาเจรจาหรือรับข้อเสนอของกลุ่มผู้ชุมนุมแต่อย่างใด

กระทั่งเวลา 17.30 น. หลังจากภาคีเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน 16 จังหวัดภาคใต้ เปิดเวทีปราศรัยนานกว่า 6 ชั่วโมง นายธีรพงศ์ แก้วนวล ได้ประกาศบนเวทีให้ชาวบ้านที่มาร่วมชุมนุม ออกไปปิดถ.เพชรเกษม บริเวณจุดกลับรถทั้งขาขึ้นและขาล่อง ทำให้การจราจรติดขัดยาวหลายกิโลเมตร จากนั้นมีการเปิดเวทีปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาลที่ไม่ให้ความสนใจในการแก้ไขปัญหา

นอกจากนั้น ชาวบ้านกว่า 200 คน ได้เดินเท้าระยะทาง 3 กิโลเมตร ไปที่ริมถ.เพชรเกษม หน้าตลาดสดบ้านศรีนคร ต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย เพื่อตั้งจุดปราศรัยแห่งใหม่ โดยแกนนำแจ้งให้ชาวบ้านเดินทางไปปิดถนน เพราะเป็นจุดชุมนุมที่มีความปลอดภัยกว่าบริเวณหน้าตลาดบ้านธรรมรัตน์

ขณะที่บริเวณจุดตรวจบ้านธรรมรัตน์ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับเวทีปราศรัย มีเพียงตำรวจนอกเครื่องแบบประจำจุดตรวจ แต่ไม่มีตำรวจปราบจลาจลเข้ามาทำหน้าที่ ทั้งนี้ หลังจากมีการปิดถนนนานกว่า 30 นาที หน่วยงานภาครัฐยังไม่มีการเจรจากับแกนนำ และไม่มีการนำตำรวจปราบจลาจลเข้ามารักษาความเรียบร้อยแต่อย่างใด

ขอบคุณภาพข่าวจาก ไทยรัฐออนไลน์ และสำนักข่าวไทย

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai