ลำดับเหตุการณ์การชุมนุม ดาวกระจายยึดก.คลัง-กต.

26 พ.ย. 2556 | อ่านแล้ว 1601 ครั้ง

เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวลำดับเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่มต่างๆ บนถ.ราชดำเนิน และการเคลื่อนตัวไปยังสถานที่ราชการต่างๆ เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าเวลา เวลา 08.00 น.แกนนำการชุมนุมได้ประกาศจัดขบวน โดยแบ่งเป็น 13 เส้นทางตามที่กำหนดไว้ ประกอบด้วยจุดที่ 1.กองบัญชาการกองทัพไทย นำโดย นายสกลธี ภัททิยกุล 2.กองบัญชาการกองทัพอากาศ นำโดย นายวิทยา แก้วภราดัย 3.หน้ากองบัญชาการกองทัพบก นำโดย นายเอกณัฐ พร้อมพันธ์ 4.กองบัญชาการกองทัพเรือ นำโดยนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม 5.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำโดย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ 6.กองบัญชาการตำรวจนครบาล

7.สถานีวิทยุโทรทัศน์ช่อง 3 นำโดย นายณัฐพล ทีปสุวรรณ 8.สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 นำโดย นายอิสสระ สมชัย 9.สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 7 นำโดย นายชาญวิทย์ วิภูสิริ 10.สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 อสมท. นำโดย นายถนอม อ่อนเกตุพล 11.สถานีวิทยุโทรทัศน์กรมประชาสัมพันธ์ ช่อง 11 NBT นำโดย นายถาวร เสนเนียม 12.กระทรวงมหาดไทย ให้นายชุมพล จุลใส และสมาชิกอบต. ที่เข้าร่วมไปทวงเงินที่ กระทรวงมหาดไทย และ 13.สำนักงบประมาณ นำโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และทาง คปท.จะเคลื่อนไป 4 จุด ในเวลา 09.00 น.โดยไม่ระบุสถานที่

เวลา 10.00 น. วันที่ 25 พ.ย. ที่กระทรวงมหาดไทย ถนนอัษฎางค์ สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล และมวลชนจาก 14 จังหวัดภาคใต้ ประมาณ 1,000 คน นำโดย นายชุมพล จุลใส และนายกฤษณ์ แก้วรักษ์ นายกอบต.ท่าข้าม อ.ท่าข้าม จ.ชุมพร ประธานชมรมการปกครองส่วนท้องถิ่น  เดินจากถ.ราชดำเนิน มายังถ.อัษฎางค์ ก่อนปักหลักอยู่ที่แยกสะพานช้างโรงสี หน้ากระทรวงมหาดไทย โดยแกนนำ เรียกร้องให้นายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ออกมาพบกับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยมีนายจรินทร์ จักกะพาก รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ออกมาต้อนรับ

เวลา 10.30 น. ที่บริเวณหน้ากองบัญชาการกองทัพไทย (ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ) ถนนแจ้งวัฒนะ กลุ่มผู้ชุมนุมคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ดาวกระจายเดินทางมารวมตัวกันบริเวณหน้ากองบัญชาการกองทัพไทย โดยมีทั้งกลุ่มผู้ชุมนุมที่เดินทางมาจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และกลุ่มพนักงานบริษัท ข้าราชการหน่วยงานบริเวณศูนย์ราชการมาร่วมชุมนุมด้วย เช่น พนักงานบริษัท กสท.โทรคมนาคม จำกัด บริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) โดยมี นายสกลธี  ภัททิยกุล เป็นแกนนำฯ จากนั้นได้อ่านแถลงการณ์เรียกร้องให้ทหารออกมาต่อสู้เคียงข้างประชาชน โดยจะให้เวลาทหารตัดสินใจภายใน 3 วัน พร้อมประกาศยืนยันจะมีการยกระดับชุมนุมทุกวัน ก่อนจะร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี มอบธงชาติ และมอบดอกกุหลาบให้กับ พล.ต.ก่อเกียรติ พิทักษ์วงศ์ เลขานุการกองบัญชาการกองทัพไทย ตัวแทนผู้รับมอบ และเป่านกหวีด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนไปเป่านกหวีดเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)และแสดงพลังต่อต้านมาตรการที่ดีเอสไอประกาศจะดำเนินคดีกับผู้ที่เป่านกหวีด ทั้งนี้นายสกลธีได้ปราศรัยระบุว่า เข้าใจว่าที่ดีเอสไอตกต่ำไม่ได้ เป็นเพราะเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ แต่เป็นเพราะนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ดังนั้นขอให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอออกมายืนอยู่ข้างประชาชนด้วย หลังจากนั้นนายสกลธีได้ปีนรั้วเข้ามามอบธงชาติให้กับตัวแทนดีเอสไอ เพื่อนำไปมอบให้นายธาริตเพื่อให้รำลึกถึงประเทศชาติ จากนั้นจึงเดินทางกลับ

เวลา 14.00 น.  ที่กระทรวงการคลัง ถ.พระราม 6 หลังจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ปราศรัยให้มวลชนประมาณ 2,000 คน บุกยึดกระทรวงการคลัง พร้อมกำชับไม่ให้ทำลายทรัพย์สิน แต่เพื่อไม่ให้นำภาษีของประชาชนไปใช้จ่ายอย่างปู้ยี่ปู้ยำ โดยกลุ่มมวลชนบางส่วนได้บุกเข้าไปในกระทรวง เริ่มจากส่วนของสำนักงบประมาณ พร้อมกับสั่งตัดไฟกระทรวงคลังแล้ว

ส่วนที่หน้าสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง3แกนนำม็อบนำโดยนางทยา ทีปสุวรรณ อดีตรองผู้ว่าฯกทม. พรรคประชาธิปัตย์ ได้นำมวลชนไปปิดล้อมด้านหน้าสถานี พร้อมยื่นคำขาดให้เลิกรายงานข่าวรับใช้ระบอบทักษิณและเรียกร้องให้นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรเล่าข่าวชื่อดัง ออกมาพบกับมวลชน ซึ่งนายวิบูลย์ ลีรัตนขจร หนึ่งในผู้บริหารช่อง 3 ออกมารับเรื่องด้วยตัวเอง และระบุกับนางทยาว่า จะต่อสายคุยกับนายสรยุทธ ก่อนที่นายสุรยุทธจะออกมาพูดคุยกับผู้ชุมนุมจนเป็นที่พอใจ ผู้ชุมนุมจึงเดินทางกลับไป

เวลา 14.00 น. สถานการณ์บริเวณแยกวัดเบญจมบพิตร ทวีความตึงเครียด เมื่อมวลชนคปท. ซึ่งเป็นแนวร่วมกับม็อบราชดำเนินของนายสุเทพ เข้าเผชิญหน้ากับแนวกั้นของตำรวจ ระยะห่างจากกันแค่ประมาณ 30 เมตร แกนนำคปท. ระบุยืนยัน ตำรวจต้องสลายแนวป้องกัน และสั่งให้มวลชนค่อยๆ เดินชิงพื้นที่ขยับทีละก้าว

เวลา 14.30 น. ที่ด่านแยกวัดเบญจมบพิตร ผู้ชุมนุมกระชากรั้วลวดหนามออกจากแนวกั้น ถ.ศรีอยุธยา หน้าวัดเบญจมบพิตรทิ้งออกหมด โดยอ้างว่าให้เปิดทางเข้าทำเนียบฯ ก่อนปะทะแล้วตำรวจถอยแนวร่นไปหลังรถขนผู้ต้องขัง หลังแบริเออร์ โดยประกาศจะเริ่มใช้มาตรการเบาไปหนัก ล่าสุด ควบคุมตัวผู้ชุมนุมไว้ได้บางส่วน

เวลา 14.40 น. มีรายงานว่า นายสุเทพเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงการคลัง และประกาศให้ข้าราชการกรมประชาสัมพันธ์ออกจากพื้นที่

เวลา 14.45 น. กลุ่มผู้ชุมนุม คปท. บางส่วนได้ถอยกลับไปตั้งหลักที่แยกนางเลิ้ง 

เวลา 15.15 น. มีรายงานว่า ม็อบหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับกระทรวงมหาดไทย ประกาศถอนกำลังกลับมาสมทบที่หน้า บช.น. ซึ่งมีนายชุมพล จุลใส หรือ "ลูกหมี" อดีตส.ส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ เป็นแกนนำ

เวลาประมาณ 15.25 น. มีรายงานว่า นายสุเทพประกาศให้อาสาสมัครบุกไปยึดกรมประชาสัมพันธ์ต่อ ซึ่งล่าสุดมีม็อบถือธงชาติเดินเข้าไปในพื้นที่กรมประชาฯ แล้ว  ด้านม็อบกปท. กองทัพธรรม ยังยึดพื้นที่แยกการเรือน แยกพิชัย แยกวังแดง ไม่ฝ่าแนวตำรวจ

ศอ.รส.แจ้งความผิดนายสุเทพ ผิดกม.ป.อาญา มาตรา 215 , 216 ฐานบุกยึดสำนักงบตัดน้ำไฟไล่ราชการ พงส.บช.น.กำลังรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดี

ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เวทีชุมนุมนปช. นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. ขึ้นเวทีปราศรัย ว่า นายสุเทพคิดว่าสำนักงบเป็นหัวใจของประเทศ ตนอยากบอกนายสุเทพว่า ขอให้ปิดสำนักงบประมาณต่อไป แล้วให้มันรู้ไปว่ารัฐบาลจะบริหารประเทศไม่ได้ วิธีคิดของนายสุเทพ ทำให้คนไทย 64 ล้านคนเดือดร้อน ส่วนกรณีปิดสถานนีโทรทัศน์ต่างๆ ตอน นายสุเทพ นำ ศอฉ. ก็มาโจมตีคนเสื้อแดงเมื่อปี 53 ว่า คุกคามสื่อ ทั้งที่ไม่เคยทำ จึงถามว่่่าวันนี้พวกนายสุเทพไปปิดสถานีโทรทัศน์ทำไม  ส่วนที่ไปกองทัพ ก็จะไปเชิญชวนทหารให้ปฏิวัติ กองทัพบางส่วนเคยเป็นพวกคุณ แล้วทหารแต่ละคนนั้นเขามีความสุขหรือไม่ แต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ร่วมมือกับทหารเพื่อดูแลความสงบช่วยเหลือน้ำท่วม ไม่ได้สั่งให้มาฆ่าคนในชาติ จุดที่มีความอ่อนไหวและเสี่ยงต่อการปะทะมากที่สุดคือ บช.น.

เวลา 16.55 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ชุมนุมต้านนิรโทษกรรม และขับไล่รัฐบาล ให้สัมภาษณ์ที่กระทรวงการคลังว่า บัดนี้มวลมหาประชาชนชาวไทยได้พร้อมใจลุกขึ้นปฏิเสธอำนาจของระบอบทักษิณ และจะเดินหน้าทำการยึดอำนาจการปกครองเป็นของประชาน เพื่อที่จะได้ร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุขอย่างแท้จริงสมบูรณ์แบบและจะ ได้ช่วยกันกำหนดกฎเกณฑ์กติกาเพื่อป้องกันไม่ให้ระบบทุนสามาลย์แบบระบอบ ทักษิณได้กลับมามีอำนาจในการปกครองบ้านเมืองในประเทศไทยอีกต่อไปรวมทั้งจะทำ การปฏิรูปการเมืองการปกครองในส่วนที่เป็นความเห็นของมวลมหาประชาชนทั้งหมด ที่ทำนี้เป็นเรื่องของการดำเนินการตามเสียงเรียกร้องของมวลมหาประชาชนพวกตน เป็นเพียงตัวแทนชั่วคราวของประชาชนเพื่อที่จะดำเนินการให้เป็นผลสำเร็จ เมื่อคืนนี้ได้มีมวลมหาประชาชนมากกว่า 1 ล้านคน ได้ลุกขึ้นแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันว่าไม่ต้องการให้ระบอบทักษิณอยู่บนแผ่นดิน ไทยอีกต่อไป เพราะระบอบนี้ทำร้ายประเทศไทยอย่างแสนสาหัส และทำให้อนาคตประเทศมีปัญหาจะเป็นภาระแก่ลูกหลานต่อไป

            “การยึดกระทรวงการคลัง ยึดสำนักงบประมาณ ก็ทำตามหลักการสันติ สงบ ปราศจากอาวุธ อหิงสา ยึดโดยประชาชนพลเมือง ไม่บุกรุกเข้าอาคาร แต่ว่านั่งอยู่รอบรั้วอาคาร ป้องกันไม่ให้สำนักงบประมาณได้โอนเงินตามคำสั่งของรัฐบาลในระบอบทักษิณอีกต่อไป ไม่ให้เป็นเครื่องมือของระบอบทักษิณอีกต่อไป สัญญาณการยึดคราวนี้จะส่งไปถึงพี่น้องประชาชนผู้รักชาติรักแผ่นดินทั่วประเทศ ให้ลุกขึ้น ทำอารยะขัดขืน ยึดสถานที่ราชการในประเทศไทย เพื่อให้ระบอบทักษิณไม่สามารถที่จะทำงานได้อีกต่อไป โดยมีข้อแม้ว่า ประชาชนทุกแห่งจะต้องปฏิบัตเหมือนที่ที่ คือไม่ใช่อาวุธ ทำโดยพลังของประชาชน เข้าไปมือเปล่า เข้าไปโดยดี ไม่ทำร้ายใคร ไม่ทำลายทรัพย์สินของราชการ นี่คือพลเมืองดีที่ลุกขึ้นพลิกอำนาจรัฐจากฝ่ายเผด็จการโดยสันติวิธิ และจะเป็นครั้งแรกของโลกที่ไทยทำได้โดยเรียบร้อย” นายสุเทพกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องการเรียกร้องอะไรจากรัฐบาล นายสุเทพ กล่าวว่า รัฐบาลนี้เป็นโมฆะอยู่แล้ว ไม่ชอบด้วยกฎหมายอยู่แล้ว ฉะนั้นรัฐบาลไม่ต้องมาเจรจาอะไรกับประชาชน สภานี้ก็เป็นโมฆะไปแล้ว เพราะมีประธานสภาที่โมฆะไม่รับอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ แถมส.ส.เกินครึ่งในสภาก็กระทำความผิด ส่วนกระบวนการของประชาชนก็จะเดินหน้าต่อไป พรุ่งนี้ก็จะเห็นอีก ยังไม่สมบูรณ์แบบ จนกว่าประชาชนทั้งประเทศจะลุกขึ้นแบบที่เราดำเนินการที่กระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ เงื่อนไขของประชาชนทั้งประเทศ คือ เราจะสถาปนารัฐบาลของประชาชนขึ้น แล้วก็ดำเนินการแก้ไขเปลี่ยนแปลงกติกาของบ้านเมือง ให้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของการปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุขอย่างแท้จริงสมบูรณ์แบบ นี่คือกระบวนการชองประชาชน ไม่ใช่ผลประโยชน์ของพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนแนวทางจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะ ๆ

นายสุเทพระบุว่า จะมีการตั้งคณะกรรมการประชาชน โดยมีตัวแทนจากกลุ่มต่างๆ อาทิ นักวิชาการ นักธุรกิจ ตัวแทนสื่อ ตัวแทนภาคประชาชน  คนดีทั้งนั้น ซึ่งต้องคุยกันต่อไปว่าจะเอาอย่างไร สิ่งที่จะเกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในโลก แต่ขณะนี้เอาเป็นเรื่องโค่นระบอบทักษิณก่อน

 

ขอบคุณข่าวจากข่าวสดออนไลน์

ขอบคุณภาพจากข่าวสด ไทยรัฐ เดลินิวส์ กรุงเทพธุรกิจ โพสต์ทูเดย์

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: