คาร์บอมบ์สยองสะเดา3จุด ปมขัดธุรกิจมืดชายแดนใต้

ข่าว-ภาพ วันชัย พุทธทอง ศูนย์ข่าว TCIJ 22 ธ.ค. 2556 | อ่านแล้ว 1486 ครั้ง

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 ธันวาคม พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผบก.ภ.จว.สงขลา รับแจ้งว่า เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ และจักรยานยนต์บอมบ์ ในเวลาไล่เลี่ยกัน 3 จุด โดยจุดแรกเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่ป้อมจุดตรวจหน้า สภ.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียน ไปจอดไว้ข้างจุดตรวจ ก่อนจุดชนวนระเบิดรถจักรยานแหลกทั้งคัน ส่วนทรัพย์สินอื่น ๆ ไม่ได้รับความเสียหาย

จุดที่สอง เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่ลานจอดรถจักรยานยนต์ภายใน สภ.สะเดา เขตเทศบาลเมืองสะเดา คนร้ายนำรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีแดงไปจอดไว้ แรงระเบิดทำให้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ข้างเคียงเสียหาย 3 คัน และรถยนต์กระบะอีก 1 คัน แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

ส่วนจุดที่สาม ซึ่งเป็นจุดที่หนักที่สุด เกิดคาร์บอมบ์ขึ้นที่โรงแรมโอลิเวอร์ เขตเทศบาลตำบลสำนักขาม ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางแหล่งท่องเที่ยว บ้านด่านนอกชายแดนไทย - มาเลเซีย คนร้ายนำรถยนต์กระบะ เข้าไปจอดไว้ด้านข้างของโรงแรม ก่อนที่จะชุดชนวนระเบิด ส่งผลให้โรงแรมเสียหายอย่างหนัก กระจกทั้ง 8 ชั้นแตก ล็อบบี้โรงแรมเสียหาย รวมทั้งร้านค้าสถานบริการและสถานบันเทิงที่อยู่รอบ ๆ โรงแรมเสียหายกว่า 20 แห่ง โดยเฉพาะสถานบันเทิงพารากอน ถูกไฟไหม้บริเวณด้านหน้าเสียหาย รวมทั้งรถยนต์อีก 9 คัน และรถจักรยานยนต์ 3 คัน รถซาเล้ง 2 คัน ซึ่งจอดอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ ถูกไฟไหม้และแรงอัดระเบิดเสียหาย เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถดับเพลิงเข้ามาควบคุมไฟส่วนยอดผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิดที่โรงแรมโอลิเวอร์ มีทั้งหมด 27 คน แต่ยังไม่มีรายงานของผู้เสียชีวิต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้บาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลสะเดา โรงพยาบาลปาดังเบซาร์และโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ซึ่งเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นได้สร้างความแตกตื่นให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะ ชาวมาเลเซียและ ชาวสิงคโปร์ ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ เป็นจำนวนมาก นักท่องเที่ยวเหล่านั้น ต่าง พากันวิ่งหนีตายอลม่าน และ เกิดความปั่นป่วนไปทั้งเมือง โดยเฉพาะการเข้า-ออก พรมแดนไทย-มาเลเซีย รวมทั้งมีผู้เข้ามามุ่งดูเหตุการณ์ส่งผลให้ รถติดยาวเหยียด

จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่โรงแรม เจ้าหน้าที่ได้เบาะแสคนร้ายที่ก่อเหตุระเบิดแล้ว โดยกล้องวงจรปิดของโรงแรมสามารถบันทึกภาพ ขณะคนร้ายได้ขับรถยนต์กระบะอีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ตอนเดียว หลังคาไฟเบอร์กลาส ที่กระโปรงรถและฝากระบะท้ายคาดสีดำ เข้ามาจอดข้างโรงแรม เวลาประมาณ 07.00 น.วันเดียวกัน ก่อนที่ชายสองคนสวมหมวกแก๊ปอำพรางใบหน้า จะลงจากรถ และมีคนร้ายอีกคนขับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าคลิก สีขาว มารับออกไป ก่อนที่จะเกิดเหตุระเบิดขึ้นในเวลาประมาณ 12.00 น. สำหรับระเบิดทั้ง 3 จุดนั้น เป็นระเบิดแสวงเครื่อง

พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผบก.ภ.จว.สงขลา เปิดเผยว่า เหตุระเบิดทั้งสามจุด เป็นฝีมือของกลุ่มอาร์เคเค เพื่อสร้างสถานการณ์ แต่อาจจะมีการเชื่อมโยงไปยังเครือข่ายการค้าของเถื่อน หรือสิ่งของผิดกฎหมาย โดยเฉพาะธุรกิจน้ำมันเถื่อน ซึ่งทางตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาได้สั่งกวาดล้าง และปิดกั้นเส้นทางขนถ่ายในพื้นที่ชายแดนไทย - มาเลเซีย อาจจะทำให้กลุ่มผู้ค้าน้ำมันเถื่อนไม่พอใจ เนื่องจากเครือข่ายการค้าน้ำมันเถื่อนในพื้นที่ชายแดนใต้ ล้วนเชื่อมโยงและเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับกลุ่มก่อความไม่สงบ

นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา เดินทางเข้าตรวจสอบเหตุระเบิดทั้ง 3 จุด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาเปิดเผยว่า เหตุระเบิดทั้งสามจุด เป็นการก่อกวนของกลุ่มอาร์เคเค โดยเชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์เชื่อมโยงกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ก็ยังไม่ได้ตัดทิ้งไปในเรื่องของกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ที่เกี่ยวกับธุรกิจมืด

เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าเหตุ คาร์บอบบริเวณโรงแรมโอลิเวอร์ คนร้ายนำรถยนต์คันเกิดเหตุ มาจอดไว้บริเวณด้านข้างของโรงแรม จนเกิดเหตุคาร์บอมบ์ขึ้นดังกล่าว จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: