เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม กลุ่มนักศึกษา มอ.ปัตตานี เสรีประชาธิปไตย ออกแถลงการณ์กรณีข้อโต้แย้งต่อแถลงการณ์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ฉบับที่ 2 ระบุว่า สืบเนื่องวันที่ 28 พฤศจิกายน 2556 ที่ประชุมคณบดีได้มีการประชุมในวาระพิเศษ เกี่ยวกับสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน และได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 2 เพื่อแสดงถึงจุดยืนของมหาวิทยาลัย โดยมีข้อเรียกร้องคือ 1.เรียกร้องให้รัฐบาลและรัฐสภา ยอมรับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ 2.คัดค้านการใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการใช้กำลังปราบปรามประชาชนที่มาชุมนุม ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด 3.ต่อต้านการทุจริต คอร์รัปชั่น 4.ต่อต้านการจาบจ้วงดูแคลนสถาบันเบื้องสูง
5.เรียกร้องให้ผู้นำประเทศมีคุณธรรม จริยธรรมในการบริหารประเทศ 6.ให้รัฐบาลและผู้บังคับใช้กฎหมายเคารพสิทธิส่วนบุคคล ของประชาชนที่จะเข้าร่วมการแสดงออกทางการเมือง และบังคับให้กฎหมายอย่างเสมอภาค 7.ให้นายกรัฐมลตรี สภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา และสมาชิกสภาเสียงข้างมาก มีส่วนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ขัดต่อหลักนิติรัฐ นิติธรรม แสดงความรับผิดชอบทางการเมืองอย่างอารยชน 8.สนับสนุนให้มีการปฏิรูปการเมือง ที่การใช้อำนาจรัฐต้องเป็นไปด้วยคุณธรรมตามระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง
ถ้อยแถลงดังกล่าวของมหาวิทยาลัยในข้างต้น สร้างความคับข้องใจให้กับ อาจารย์ นักศึกษาและบุคลากรจำนวนไม่น้อย ในการแสดงท่าทีของมหาวิทยาลัยที่มีต่อวิกฤตการเมืองในปัจจุบัน โดยข้อเสนอดังกล่าว หาได้ยึดโยงกับความเป็นจริงทางสังคมไม่ หากเป็นแค่นามธรรมยากต่อการปฏิบัติได้จริง อีกทั้งข้อเสนอดังกล่าวก็หาได้เป็นข้อคิดเห็นที่ได้รับความเห็นชอบจากมวลสมาชิกทั้งหมดของมหาวิทยาลัย หากแต่เป็นเพียงข้อเสนอเพื่อสนองต่อทัศนคติหรือรสนิยมทางการเมืองของคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น
ทางกลุ่มนักศึกษา มอ.ปัตตานี เสรีประชาธิปไตย จึงได้ตั้งข้อสังเกตกับถ้อยแถลงการณ์ดังกล่าว ดังนี้ 1.การเรียกร้องให้รัฐบาลและรัฐสภา ยอมรับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ข้อเสนอดังกล่าวถือว่าใช้ไม่ได้ ด้วยเหตุที่คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เนื่องจากไม่มีบทบัญญัติใดในรัฐธรรมนูญให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบควบคุมกระบวนการตลอดจนเนื้อหาของการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ การที่ศาลรัฐธรรมนูญเข้าตรวจสอบควบคุมการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญทั้ง ๆ ที่ปราศจากอำนาจตามรัฐธรรมนูญถือว่าเป็นการสถาปนาอำนาจขึ้นมาเอง อีกทั้งยังเป็นการขยายแดนอำนาจของตนออกไปจนกลายเป็นองค์กรที่อยู่เหนือรัฐธรรมนูญและอยู่เหนือองค์กรทั้งปวงของรัฐ มีผลเป็นการทำลายหลักนิติรัฐประชาธิปไตยลง จนก่อให้เกิดสภาวการณ์ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจสูงสุดเด็ดขาด ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวของมหาวิทยาลัยเป็นการทำลายหลักนิติรัฐ และประชาธิปไตยในระยะยาว
2.คัดค้านการใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการใช้กำลังปราบปรามประชาชนที่มาชุมนุม ข้อเสนอดังกล่าว แม้จะเป็นข้อเสนอที่ดี ด้วยเหตุที่เจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่ควรให้ความรุนแรงกับประชาชน อีกทั้งการชุมชนอย่างสงบก็เป็นการใช้สิทธิตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งควรเคารพในการแสดงความคิดเห็นของผู้คนเหล่านั้น และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการชุมนุมดังกล่าว จะอยู่ภายใต้กรอบประชาธิปไตย แต่ถึงกระนั้นกลุ่มนักศึกษาก็มีความเห็นสอดคล้องกับข้อเสนอดังกล่าวเพียงครึ่งเดียว เนื่องด้วยการเรียกร้องดังกล่าวเป็นเพียงการเรียกร้องต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ หาได้รวมไปถึงผู้ชุมนุมไม่ ซึ่งหากติดตามข่าวสารก็จะปรากฏชัดว่าความรุนแรงส่วนใหญ่นั้นเกิดขึ้นจากฝ่ายใด
3.ต่อต้านการหมิ่นเบื้องสูง ซึ่งแท้จริงควรเป็นต่อต้านการอ้างสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นเครื่องมือทางการเมืองในการโจมตีฝ่ายตรงข้ามเสียมากกว่า ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าในห้วงระยะเวลา 5-6 ปีที่ผ่านมา ความขัดแย้งที่สังคมไทยต้องเผชิญนั้นคือความขัดแย้งระหว่าง พลังทางการเมืองกลุ่มต่าง ๆ อ้างสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นเครื่องมือทางการเมืองในการโจมตีฝ่ายตรงข้าม ทำให้เป็นการดึงพระองค์ เข้ามาเกี่ยวพันกับความขัดแย้งทางการเมือง
4.การกล่าวถึงคุณธรรม จริยธรรม นั้นเป็นการเรียกร้องนามธรรมเลื่อนลอย หาได้ยึดโยงกับความเป็นจริงในสังคมไม่ อีกทั้งยังเห็นได้ชัดว่าคนบางกลุ่มในมหาวิทยาลัยยังคงผูกติดอยู่กับฐานคิดประชาธิปไตยแบบชนชั้นนำ ที่มองว่ารัฐบาลประชาธิปไตยที่มาจากเสียงของคนส่วนใหญ่ของประชาชน ขาดคุณธรรมและจริยธรรมทางการเมือง ก็ด้วยเหตุที่ว่าคนกลุ่มนี้ไม่เคารพในความคิดเห็นของคนอื่น และมองคนอย่างไม่เท่าเทียมกันมาโดยตลอด
ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น กลุ่มนักศึกษา มอ.ปัตตานี เสรีประชาธิปไตย จึงขอให้ถือเสียว่าแถลงการณ์ดังกล่าวเป็นเพียงความคิดเห็นของคณะผู้บริหาร และสมาชิกบางส่วนของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งถือเป็นเพียงความคิดเห็นของคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น หาได้ถือว่าแถลงการณ์ครอบคลุมความคิดเห็นของสมาชิกทั้งหมดไม่ อีกทั้งยังให้ถือว่าแถลงการณ์ดังกล่าวเป็นไปในนามของบุคคล ใช่เป็นในนามมหาวิทยาลัย
ด้วยเหตุนี้ กลุ่มนักศึกษา มอ.ปัตตานี เสรีประชาธิปไตย จึงมีข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลดังนี้ 1.คัดค้านการใช้ความรุนแรง และการยั่วยุทั้งจากฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ และฝ่ายผู้ชุมนุม 2.การชุมนุมเรียกร้องควรเป็นไปในวิถีทางการเรียกร้องประชาธิปไตย ใช่เป็นการชุมนุมเพื่อเรียกร้องระบอบการปกครองอื่น ที่นอกเหนือออกไปจากระบอบประชาธิปไตย 3.ขอเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขรัฐธรรมนูญปี พ.ศ.2550 ทั้งฉบับ โดยยึดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญประชาชนอย่างแท้จริง หาได้เป็นรัฐธรรมนูญเผด็จการซ่อนรูปอย่างรัฐธรรมนูญปี พ.ศ. 2550 4.ขอให้รัฐบาลคืนอำนาจในการตัดสินใจทางการเมืองกลับไปสู่ประชาชน เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งตามวิถีทางประชาธิปไตย
ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ