วันที่ 23 พฤศจิกายน นายอำนาจ ผลมาตย์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สงขลา เปิดเผยว่า จังหวัดได้ประกาศให้พื้นที่ 8 อำเภอของ จ.สงขลาเป็นเขตภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว ประกอบด้วย อ.เมือง จะนะ สิงหนคร ระโนด สทิงพระ ควนเนียง กระแสสินธ์ และอ.รัตภูมิ จากพื้นที่ทั้งหมด 16 อำเภอของ จ.สงขลา โดยให้แต่ละอำเภอเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยประชาชนทั้งบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตร ทั้งนี้ยังมีพื้นที่ 3 อำเภอที่สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วงคือ อ.ระโนด สทิงพระ และอ.จะนะ ซึ่งทั้งสามอำเภอทางจังหวัดได้จัดส่งเรือท้องแบนไปช่วยเหลือแล้วจำนวน 26 ลำ

ขณะที่ภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.สงขลาเริ่มคลี่คลาย ทุกพื้นที่ปริมาณน้ำลดลงเนื่องจากฝนหยุดตกตั้งแต่เมื่อคืน และจากภาวะน้ำท่วมในจ.สงขลา ที่เกิดขึ้นขณะนี้ มีพื้นที่รวม 8 อำเภอ 63 ตำบล 336 หมู่บ้าน กับอีก 1 ชุมชน รวม 12,312 ครัวเรือน ประชาชนเดือดร้อน 34,041 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือสูญหายและขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการประเมินความเสียหาย

ส่วนที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่อ.บางสะพานน้อย ว่า มีฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ซึ่งนายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร นายอำเภอบางสะพานน้อย และ นายทนงศักดิ์ รุ่งรัศมี ปลัดอำเภอบางสะพานน้อย เปิดเผยว่า มีฝนได้ตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่เวลา 02.00 น.ที่ผ่านมา จนกระทั่งถึงช่วงบ่ายที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมอย่างฉบับพลันในพื้นที่ เทศบาลตำบลบางสะพานน้อย และพื้นที่ตำบลบางสะพาน บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร ซึ่งล่าสุดได้ระดมให้ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์กรปกครองส่วนถิ่น ให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ประมาณ 15 หมู่บ้าน รวมทั้งเร่งใช้รถแบ็คโฮเปิดพื้นที่พื้นที่ระบายน้ำออกสู่ทะเล และยังมีลมพัดหลังคาบ้านเรือนราษฎร 5 หลัง หมู่ 5 บ้านบางบิด ต.ทรายทอง อ.บางสะพานน้อย และต้นยางล้มได้รับความเสียหายเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาด้วย

นายถวิล ฉันทาวรานุรักษ์ ปลัดอำเภอบางสะพาน กล่าวว่า ขณะนี้ได้แจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ริมคลองบางสะพาน และหน่วยงานต่างๆให้เฝ้าระวังระดับน้ำที่อาจจะเอ่อขึ้นมาท่วมในพื้นที่ราบลุ่มของอำเภอบางสะพานได้ หลังมีฝนตกหนักตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้น้ำในคลองบางสะพานเริ่มสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามคาดว่าน้ำจะไหลลงสู่ทะเลได้เร็วขึ้น เนื่องจากเมื่อครั้งที่แล้วมีการเปิดปากคลองปากปิดกว้างกว่า 20 เมตรให้น้ำระบายลงสู่ทะเล แต่ก็ไม่ประมาทสั่งเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง

ด้านจ.สุราษฎร์ธานี ที่ อ.ท่าชนะ ระดับน้ำในเขตเทศบาล ตำบลท่าชนะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องบางแห่งระดับน้ำสูงประมาณ 50-70 เซนติเมตร ทั้งนี้เป็นผลมาจากมวลน้ำก้อนใหญ่ จาก ต.คลองพา และ ต.ประสงค์ ได้ไหลลงมาถึงพื้นที่เขตชุมชนแล้ว

ขณะที่บริเวณอ่างเก็บน้ำคลองพา หมู่ 5 ต.คลองพา ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ของ อ.ท่าชนะ ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำล้น และไหลข้ามสันเขื่อน ลงสู่ชุมชนด้านล่างในปริมาณมาก และเชี่ยวกราก ส่งผลให้ในช่วงบ่ายจนถึงค่ำวันนี้ ระดับน้ำในเขตเทศบาลตำบลท่าชนะจะเพิ่มระดับสูงขึ้นอีก ประกอบกับมีน้ำจาก ต.ประสงค์ไหลลงมาสมทบเพิ่มอีก จึงทำให้ระดับมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในส่วนของ ต.คลองพา ชาวบ้าน กว่า 2,000 ครัวเรือน ใน 7 หมู่บ้านถูกตัดขาด เนื่องจากถนน 2 สาย ถูกน้ำท่วมสูง รถไม่สามารถสัญจรผ่านได้ คือ ถนนสายคลองพา-ห้างพิมาน และ ถนนจาก ต.คลองพาเชื่อมต่อ ต.คันธุลี ซึ่งชาวบ้าน ใน 7 ตำบลได้มีการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมไว้ก่อนแล้ว เนื่องจากมีการแจ้งเตือนน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ล่วงหน้ามาแล้วหลายวัน

สำหรับ อ.ท่าชนะ เป็นพื้นที่รับน้ำจาก ภูเขาฝั่งตะวันตก โดยน้ำจากคลองพา ต.คลองพา คลองหินโฉ ต.ประสงค์ และน้ำจาก อ.ละแม จ.ชุมพร จะไหลมารวมกันที่คลองท่ากระจาย พื้นที่หมู่ 4 ต.คลองพา และไหลผ่านตัวชุมชนเทศบาลตำบลท่าชนะ ก่อนระบายลงสู่ทะเล

นายชุมพล สุกไส นายอำเภอท่าชนะ กล่าวว่า จากปริมาณน้ำที่ไหลล้นอ่างเก็บน้ำคลองพา จะส่งผลให้ตัว อ.ท่าชนะ และเขตเทศบาล ถูกน้ำท่วมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขอให้ประชาชน เร่งขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และ ระมัดระวังเรื่องกระแสไฟฟ้า พร้อมติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด โดยคาดว่า ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเย็น ถึงค่ำวันนี้ เนื่องจากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาในพื้นที่ในช่วง 3 วันก่อน มีมากกว่า 300 มิลลิเมตร โดยเฉลี่ยวันละ 80-90 มิลลิเมตร

ขอบคุณข่าวจากคมชัดลึกออนไลน์

อ่านข่าวออนไลน์จากแฟนเพจเฟสบุ๊คของ TCIJ ได้ทุกวัน

www.facebook.com/tcijthai