พายุถล่มเพชรบุรี-ประจวบ น้ำท่วม-ไฟดับหลายพื้นที่

8 พ.ย. 2556 | อ่านแล้ว 740 ครั้ง

เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน  นายรอยล จิตรดอน ประธานคณะอนุกรรมการบริหารน้ำและจัดสรรน้ำ คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย กบอ. เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้หารือถึงสถานการณ์น้ำ และแนวทางการรับมือพายุไต่ฝุ่นไห่เยี่ยน บริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งยังคงความรุนแรงเป็นพายุไต้ฝุ่นระดับ 5 และมีแนวโน้มเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนไปทางเหนือ ใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง ระหว่างวันที่ 10-11 พ.ย. จากนั้นจะอ่อนกำลังลงแล้วเลี้ยวขึ้นไปทางตอนใต้ของจีน ปัจจุบันพายุลูกนี้อยู่ห่างประเทศไทย 572 กิโลเมตร ความเร็ว 36.41 น็อต ซึ่งแม้พายุจะไม่เคลื่อนเข้ามายังประเทศไทยโดยตรง แต่จะมีอิทธิพลทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในวันที่ 11 พ.ย. และภาคเหนือในวันที่ 12 พ.ย. เป็นฝนที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบรุนแรงเหมือนในฟิลิปปินส์ ที่ต้องอพยพประชาชน

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์พายุที่เกิดขึ้นทำให้ประเทศไทย ยังต้องเฝ้าระวังพื้นที่ฝนตกหนัก ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงวันที่ 9-11 พ.ย. และ และภาคเหนือในช่วงวันที่ 11-12 พ.ย. เฝ้าระวังระดับน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนลำนางรอง เขื่อนมูลบน เขื่อนลำแซะ เขื่อนลำพระเพลิง เขื่อนกิ่วคอหมา และเขื่อนกิ่วลม พร้อมทั้งเฝ้าระวังระดับน้ำที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในแม่น้ำมูล และแม่น้ำชีตอนบน

ขณะที่สถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักยังน่าเป็นห่วง อย่างไรก็ตามเชื่อว่าลุ่มน้ำยมตอนบนยังสามารถรับมือกับสถานการณ์น้ำได้ หากพายุที่กระทบไทยไม่รุนแรงตาม โดยระดับน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนบน ระดับน้ำในลำน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงวันที่ 15 พ.ย. แม้จะไม่ล้นตลิ่ง แต่อาจมีน้ำท่วมขังในบางพื้นที่ได้

สำหรับสถานการณ์ปัจจุบันยังคงเฝ้าระวังหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง บริเวณอ่าวไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบน ที่อ่อนกำลังลงจากพายุดีเปรสชั่น ที่กำลังจะเคลื่อนตัวไปปกคลุมทะเลอันดามันตอนบน ใน วันที่ 9 พ.ย. ส่งผลให้มีฝนตกหนาแน่นในภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาค ใต้ในช่วงวันที่ 8-9 พ.ย. ภาคใต้ยังคงต้องเฝ้าระวังพื้นที่ฝนตกหนัก ภาคใต้ตอนบนบริเวณจ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพรใน ช่วงวันที่ 8-9 พ.ย. โดยเฝ้าระวังระดับน้ำที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น แม่น้ำเพชรบุรี แม่น้ำปราณบุรี คลองบางสะพาน และแม่น้ำกุยบุรี

เฝ้าระวังเขื่อน เขื่อนแก่งกระจานและเขื่อนปราณบุรี ที่ปัจจุบันมีปริมาณน้ำกักเก็บที่ 88 เปอร์เซนต์ และ 86 เปอร์เซนต์ สามารถรับน้ำได้อีก 84 และ 48 ล้าน ลบ.ม. และคาดการณ์ปริมาณน้ำ ไหลเข้าเขื่อนแก่งกระจานและเขื่อนปราณบุรี ระหว่างวัน ที่ 8-13 พ.ย. ประมาณ 12 และ 23 ล้าน ลบ.ม. โดยสถานการณ์ฝนในภาคใต้หลังจากนี้คาดว่าจะลดลง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จ.เพชรบุรี มีฝนตกลงมาอย่างหนักตั้งแต่เวลา 22.00 น. วันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา กระทั่งถึงช่วงบ่ายวันที่ 8 พ.ย. ทำให้เกิดน้ำท่วมขังบนถนนหลายสาย และในหลายพื้นที่ของจ.เพชรบุรี ทั้งในเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี และเทศบาลเมืองชะอำ มีระดับน้ำท่วมสูงถึง 200-300 เซนติเมตร นอกจากนี้ยังเกิดน้ำป่าไหลหลากในบางพื้นที่ และเกิดไฟฟ้าดับเป็นเวลานานด้วย

 

ขอบคุณภาพข่าวจากไทยรัฐออนไลน์

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ

  

Like this article:
Social share: