สมช.ยันเจรจาใต้ไม่ผิดคน เดินหน้าถก'บีอาร์เอ็น'ต่อ

อรรคณัฐ วันทนะสมบัติ ศูนย์ข่าว TCIJ 6 พ.ย. 2556 | อ่านแล้ว 444 ครั้ง

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พูดคุยถึงความคืบหน้ากระบวนการสร้างสันติภาพใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ว่า การเจรจาระหว่างรัฐไทยและผู้เห็นต่างจากรัฐมีความก้าวหน้ามาโดยตลอด ยังยืนยันว่าเป็นปัญหาภายในของประเทศไทย มาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวกไม่ได้มีส่วนได้เสียใด ๆ โดยทั้งมาเลเซียและไทยมีความเห็นพ้องว่า การแก้ปัญหาด้วยสันติวิธีเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน รัฐบาลมีการแบ่งการแก้ปัญหาเป็น 3 วง คือ เอกภาพภายในรัฐไทย ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน และความสัมพันธ์กับโลกมุสลิม การพูดคุยครั้งแรกมีความเห็นตรงกันที่จะลดความรุนแรงก่อน ยังไม่มีเงื่อนไขหรือข้อเรียกร้อง เมื่อความรุนแรงลดลงจริง จึงนำมาสู่ข้อเรียกร้อง 5 ข้อ ของ BRN ในการเจรจาครั้งต่อๆมา โดยทั้งสองฝ่ายต่างเข้าใจตรงกันว่าข้อเรียกร้องใดๆต้องไม่ขัดรัฐธรรมนูญและไม่แบ่งแยกดินแดน หรือ การปกครองตนเองในเงื่อนไขที่แตกต่างออกไปมากจนเกินกว่าเหตุ  ซึ่งทางฝ่าย BRN ก็ยืนยันแล้วว่าข้อเรียกร้องทั้ง 5 ข้อ ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญของไทย รัฐบาลจึงพร้อมจะพูดคุยรายละเอียด ในการเจรจาครั้งต่อไป ทั้งนี้ได้แจ้งให้มาเลเซียทราบ คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าคงจะได้ทราบว่าการพูดคุยครั้งที่ 5 จะมีขึ้นเมื่อใด

พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร

พล.ท.ภราดรกล่าวต่อถึงข้อสงสัยที่ว่ารัฐบาลและกองทัพ ไม่มีความเป็นเอกภาพในการแก้ปัญหาว่า ไม่เป็นความจริง แต่ละหน่วยงานมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกันในการแสวงหาคำตอบ ส่วนหนึ่งที่ดูเหมือนมีความล่าช้า เป็นเพราะหน่วยงานต่างๆต้องพูดคุยแลกเปลี่ยนหาข้อสรุป  ซึ่งตอนนี้มีคำตอบที่พร้อมสำหรับการเจรจากับ BRN ในครั้งต่อไป ยืนยันไม่มีการเปลี่ยนตัวคนเจรจา มั่นใจ ฮัสซัน ตอยิบ เป็นตัวแทนของคณะบริหารสูงสุดของขบวนการเป็นตัวแทนเสียงข้างมาก  ซึ่งภายในขบวนการนั้นก็อาจมีคนส่วนน้อยที่ไม่เห็นด้วยเป็นเรื่องธรรมดา ช่วงแรกนั้นปัจจัยของเหตุการณ์และองค์ประกอบอนผสมผสานกันจนทำให้ดูไม่ออกว่าใครเป็นใคร หลังจากเข้าสู่กระบวนการพูดคุยทำให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจน หน่วยงารที่ทำงานด้านการข่าวทั้งของไทย มาเลเซีย และขบวนการเองก็ให้ข้อมูลตรงกัน ว่าBRN คือกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด ฮัสซัน ตอยิบ คือผู้ที่เป็นตัวแทนของเสียงส่วนมากในขบวนการ และในการเจรจาครั้งต่อไป จะประสานดึงกลุ่มอื่นๆ เข้าร่วมพูดคุยด้วย การแก้ไขปัญหาความไม่สงบเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐ ที่ผ่านมาประชาชนทั้งประเทศให้ความสนใจ แต่มีความยากที่จะอธิบายสภาพการณ์ความเป็นไปในสามจังหวัดภาคใต้ให้ประชาชนทั้งประเทศเข้าใจ เพราะปัญหามีความซับซ้อน

นอกจากนี้ เลขาธิการสมช. ยังกล่าวถึง ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่กำลังเป็นประเด็นขัดแย้งในสังคมไทยว่า มีคนพยายามที่จะโยงกับปัญหาสามจังหวัดชายแดนใต้ ตนขอยืนยันว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับภาคใต้เลยแม้แต่น้อย จะมีผลบังคับใช้กับผู้ชุมนุมทางการเมืองเท่านั้น ไม่ครอบคลุมถึงเหตุการณ์ความไม่สงบที่ กรือเซะและตากใบ ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า ตลอดการพูดคุย พล.ท.ภราดร ใช้คำว่า “ผู้เห็นต่างจากรัฐ” และ “ขบวนการ BRN” โดยไม่มีการใช้คำว่า “โจรใต้” หรือ “ผู้แบ่งแยกดินแดน” ดังที่สื่อกระแสหลักและ รัฐไทยในอดีต เคยใช้ นับเป็นการเผยให้เห็นถึงท่าทีและทัศนคติที่เป็นบวก ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้เชื่อได้ว่า กระบวนการพูดคุยระหว่างรัฐและ BRN มีพลวัตรที่ดีและอาจนำไปสู่ความสงบสุขในเร็ววัน “ขอความสันติสุขจงบังเกิดมีแก่ทุกท่าน”

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai

 

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ

  

Like this article:
Social share: