เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย ตามที่คณะกรรมาธิการร่วมกันของสองสภาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฯ มีมติด้วยเสียง 368 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง และงดออกเสียง 1 เสียง และหลังจากที่สภาฯมีมติเห็นชอบแล้วจะเข้าสู่กระบวนการประกาศเป็นกฎหมายบังคับใช้ต่อไป
สำหรับสาระสำคัญของกฎหมายดังกล่าว เป็นการยกเลิก พ.ร.บ.ว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ.2542 และให้สิทธิ์ประชาชนที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง จำนวน 10,000 คน เข้าชื่อเพื่อเสนอร่าง พ.ร.บ.ได้ และให้สิทธิ์ประชาชนที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง จำนวน 50,000 คน เข้าชื่อเสนอญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดยในขั้นตอนต้องมีการแจ้งให้ประธานรัฐสภาได้รับทราบ ถึงความริเริ่มเสนอร่างกฎหมาย หรือเสนอญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมกำหนดให้สำนักงานเลขาธิการสภาฯ สำนักงานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย หรือหน่วยงานที่มีอำนาจช่วยเหลือ เกี่ยวกับการจัดทำร่างกฎหมาย ตามที่ผู้ริเริ่มเสนอร่างกฎหมายต้องการ นอกจากนั้นให้สิทธิ์ประชาชนขอรับการสนับสนุนค่าใช้จ่าย จากกองทุนพัฒนาการเมืองภาคพลเมือง ตามที่กฎหมายว่าด้วยสภาพัฒนาการเมืองกำหนดได้ ทั้งนี้หลังจากการแสดงเจตจำนงค์ริเริ่มร่างกฎหมายแล้ว ต้องดำเนินการเข้าชื่อ ให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน หากดำเนินการไม่แล้วเสร็จตามเวลาให้สิทธิ์จำหน่ายเองคืนผู้ริเริ่ม
สำหรับร่างพ.ร.บ.ที่จะเสนอให้รัฐสภาพิจารณา จะต้องเป็นร่างกฎหมายที่มีหลักการเกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพของประชาชน หรือแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ และต้องไม่เป็นผลเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข หรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ และเมื่อประชาชนยื่นรายชื่อประกอบเสนอร่างพ.ร.บ.หรือญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประธานรัฐสภต้องตรวจสอบความถูกต้องให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน
จากนั้นให้ประกาศรายชื่อผู้เขาชื่อทางสื่อเทคโนโลยีของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ และจัดทำเอกสารให้ประชาชน รวมถึงให้มีหนังสือแจ้งไปยังผู้มีตรายชื่อตรวจสอบ และหากประชาชนคนใดถูกแอบอ้างชื่อสามารถยื่นคำร้องคัดค้านต่อประธานรัฐสภา ภายใน 30 วัน ส่วนบุคคลใดที่แอบอ้างชื่อเพื่อร่วมเสนอกฎหมายได้กำหนดให้มีบทลงโทษ คือ จำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากบุคคลใดสัญญาว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทน เพื่อจูงใจให้ร่วมลงชื่อ หรือไม่ให้ลงชื่อเสนอร่างกฎหมายหรือญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงมีการบังคับให้ลงโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท
ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ