ผวจ.ยันไม่สลายม็อบยาง มีหลายกลุ่มจึงตกลงไม่ได้

30 ต.ค. 2556 | อ่านแล้ว 551 ครั้ง

นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายเกษตรกรสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน 16 จังหวัดภาคใต้ ที่ปักหลักชุมนุมกันที่บริเวณ ถ.เพชรเกษม ช่วง ก.ม. 413-414 โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านศรีนคร หมู่ 7 ต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม ที่ผ่านมา และยังมีการปิดการจราจร โดยประชาชนต้องใช้เส้นทางสำรองในการสัญจรไปมาจากภาคใต้ทั้งขาขึ้นขาล่องว่า สถานการณ์ตอนนี้ยังไม่การเปลี่ยนแปลง แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือกระแสข่าวที่แพร่สะพัดกระจายออกไปว่า จะมีการใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุม ซึ่งย้ำว่าไม่มีนโยบายในการสลายชุมนุมอย่างแน่นอน เพราะหากมีการสลายการชุมนุม จะมีผลกระทบหลายอย่างตามมาและไม่ใช่ทางออกที่ดี 

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีการเตรียมการในการรักษาความสงบเรียบร้อย เนื่องจากไม่อยากให้มีการกระทำผิดกฎหมายเกิดขึ้น มีการใช้กำลังในส่วนของการช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน รักษาเส้นทางสำรอง รวมทั้งตรวจตราดูแลการเข้า-ออกของผู้ชุมนุม ไม่ให้มีสิ่งผิดกฎหมายเข้าไปในที่ชุมนุม ล่าสุดพบว่าเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ที่นำสิ่งผิดกฎหมาย ที่จะใช้เป็นอาวุธเตรียมเข้าไปในที่ชุมนุม

นายวีระกล่าวต่อว่า ส่วนการเจรจาตามข้อเรียกร้องกับแกนนำของกลุ่มเครือข่ายเกษตรกรสวนยางพาราฯ นั้น ได้เจรจาไปแล้ว 2 รอบ แต่ก็ยังไม่มีข้อสรุป เนื่องจากผู้เข้าเจรจา เพียงแต่รับข้อเสนอไปบอกให้ผู้ชุมนุมตัดสินสินใจ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้จะหาข้อสรุปยาก ข้อเรียกร้องที่เปิดเผยแพร่กันทางโซเชียลมีเดียวันนี้ ก็เป็นเรื่องที่ได้พูดคุยกันแล้ว และพยายามที่จะหาทางออกร่วม ซึ่งมีแกนนำบางส่วนเข้าใจ แต่บางส่วนก็ยังไม่เห็นด้วย ตอนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ก็พยายามสื่อสารให้ผู้ชุมนุมตกลงกันให้ชัดเจนก่อน และอยากให้มีเอกภาพ เนื่องจากที่ผ่านมามีอุปสรรคคือความไม่เป็นเอกภาพ ทำให้ไม่ได้ข้อสรุป การเจรจาที่ผ่านมาข้อเรียกร้องบางอย่างสามารถปฏิบัติได้เลย แต่จะต้องผ่านขั้นตอนของการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาและประชุมร่วมกัน ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน ซึ่งตรงจุดนี้หากถ่ายทอดไม่ตรง ก็เสียดายโอกาสที่ประชาชนจะรับรู้ข้อมูลตรงจุดนี้

ทั้งนี้ยังรอให้มีการเจรจาและยืนยันว่าจะใช้สันติวิธี แต่เป็นห่วงว่าจะมีมือที่ 3 หรือการเตรียมการที่พยายามให้เกิดความรุนแรง เพื่อให้ผู้ชุมนุมฯใช้เป็นเงื่อนไขว่า เกิดความไม่ชอบธรรมของเจ้าหน้าที่ จึงต้องระมัดระวังและรอบคอบ

            “ขณะนี้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมาก แต่จำเป็นต้องแก้ปัญหาด้วยวิธีการสันติ จึงอาจต้องใช้เวลาบ้าง แต่จะพยายามพูดคุยเจรจาเพื่อให้ได้ข้อยุติรวดเร็วที่สุด และอยากให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี อย่างไรก็ตามอยากให้เปิดการจราจรให้เร็วที่สุด แต่ต้องวิเคราะห์สถานการณ์ให้รอบคอบ หากคุยกันไม่จบ หรือยังไม่มีข้อสรุปในการเจรจา การกระทำการใดๆ ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดความรุนแรง” นายวีระกล่าว

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ

  

Like this article:
Social share: