คาดถกนิรโทษวาระ2พ.ย. ปชป.โอดกมธ.เมินข้างน้อย

26 ต.ค. 2556 | อ่านแล้ว 438 ครั้ง

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม นายอำนวย คลังผา ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เปิดเผยว่า คาดว่ากรรมาธิการฯ จะส่งร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้ประธานสภาฯ ในช่วงปลายเดือนต.ค. จากนั้นจะเป็นหน้าที่ของประธานสภาฯ ที่จะบรรจุระเบียบวาระ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีกฎหมายค้างอยู่ในสภาฯ หลายฉบับ ดังนั้นคงไม่น่าจะพิจารณาวาระ 2 ได้ภายในสัปดาห์แรกของเดือนพ.ย. คาดว่าอย่างเร็วที่สุดน่าจะพิจารณาได้ช่วงกลางเดือนพ.ย.ไปแล้ว ส่วนมติพรรคว่าจะให้ส.ส.ฟรีโหวตหรือไม่นั้น คงต้องหารือกันอีกครั้ง

ด้านนายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) กล่าวว่า ในวันที่ 28 ต.ค.จะมีการประชุมวิปรัฐบาลเพื่อหารือกรณีร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่คณะกรรมาธิการฯเสียงข้างมาก แก้ไขเนื้อหาให้นิรโทษกรรมทุกฝ่าย ทั้งนี้การลงมติกฎหมายฉบับนี้จะต้องเป็นมติพรรคให้ส.ส.ปฏิบัติตาม เพราะเป็นกฎหมายสำคัญ คงไม่ปล่อยให้ฟรีโหวต ซึ่งเท่าที่ทราบพรรคจะให้ยกมือสนับสนุนเนื้อหา ตามร่างที่กรรมาธิการฯ เสียงข้างมากแก้ไขมา

โดยข้อสรุปเบื้องต้นของคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ก็เห็นด้วยกับแนวทางนี้ แม้ว่าจะมีส.ส.เสื้อแดงไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาที่กรรมาธิการฯ เสียงข้างมากแก้ไข แต่เต็มที่ก็คงใช้วิธีงดออกเสียง คงไม่มีผลกระทบต่อคะแนนเสียงเท่าไร เพราะส.ส.เสื้อแดงมีจำนวนไม่มากเท่าใดในพรรค แต่หากปล่อยให้ฟรีโหวตแล้วมีส.ส.เพื่อไทยเสียงแตกจำนวนมาก จะกระทบไปถึงความเชื่อมั่นของรัฐบาลและพรรคได้ ถ้าเสียงแตกมาก ๆ ก็อาจถึงขั้นที่ทำให้ต้องยุบสภาได้เพราะเป็นกฎหมายสำคัญ

ขณะที่ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่า เรื่องนี้พรรคประชาธิปัตย์ได้คาดไว้ตั้งแต่ต้นว่า รัฐบาลพยายามเล่นแร่แปรธาตุ จึงได้แปรญัติไว้ว่าจะต้องไม่นิรโทษกรรมกับคดีทุจริต และคดีอาญาร้ายแรงต่าง ๆ หรือความผิดต่อพระมหากษัตริย์ ราชินี องค์รัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน ผู้แทนพระองค์ ความผิดต่อความมั่นคง ความผิดก่อการร้าย ความผิดต่อชีวิตและร่างกาย เป็นต้น แต่ในชั้นกรรมาธิการ(กมธ.)กลับมีการปรับแก้ถ้อยคำในมาตรา 3 จึงมองว่า การเสนอร่างของนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย เป็นเพียงการตบตาประชาชน และกลุ่มคนเสื้อแดงทั้งประเทศ ในการช่วยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีทุจริต แต่จุดมุ่งหมายคือ สิ่งที่นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ รองประธานคณะกรรมาธิการฯ เป็นผู้เสนอ ซึ่งนี่คือความไม่ถูกต้องชอบธรรมในการเสนอกฎหมาย ซึ่งการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการฯ พวกตนก็ได้แสดงความเห็นคัดค้านในเรื่องนี้ แต่กรรมาธิการฯ เสียงข้างมากไม่เห็นด้วย กับการเสนอคำแปรญัตติของประชาธิปัตย์แม้แต่เรื่องเดียว และยังเดินหน้าที่จะใช้ข้อความตามมาตรา 3 ที่นายประยุทธ์เสนอ

นายองอาจกล่าวต่อว่า นอกจากนี้การประชุมกมธ.นิรโทษฯ เมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา ก็ประชุมถึงเที่ยงคืนนั้น ปรากฏว่า ยังมีส.ส.อีกจำนวนมาก ที่ต้องการชี้แจงคำแปรญัตติ แต่กมธ.เสียงข้างมากกลับใช้วิธีหักดิบ ปิดการแปรญัตติ อย่างเร่งรีบ รวบรัด เพื่อให้กฎหมายฉบับนี้ผ่านโดยเร็ว โดยอ้างว่าประธานกมธ.นัดแปรญัตติเพียงแค่ 2 วัน จึงมีการลงมติปิดการเสนอคำแปรญัตติ และยังนัดประชุมกมธ.นิรโทษฯ ต่อในวันที่ 28 ต.ค. ดังนั้นการเร่งรีบเช่นนี้ ตนเชื่อว่ามีความเป็นไปได้มากว่า กมธ.จะผลักดันกฎหมายฉบับดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯในวันที่ 30 ต.ค.นี้ นี่จึงเป็นพฤติกรรมที่ไม่บริสุทธิ์ใจ มีวาระซ่อนเร้นจึงขอฝากให้รัฐบาลและคนที่มีอำนาจเหนือรัฐบาลขอให้พิจารณายับยั้งชั่งใจ และดำเนินการให้เหมาะสม

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ

  

Like this article:
Social share: