เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ในหัวข้อ “พ.ร.บ.นิรโทษกรรมกับการชุมนุมคัดค้าน” โดยสำรวจจากประชาชนที่อาศัยใน กทม. และปริมณฑล จำนวน 1,195 คน พบว่า ประชาชนร้อยละ 45 เห็นด้วย กับการนิรโทษกรรมให้กับประชาชนที่ร่วมชุมนุม ขณะที่ร้อยละ 34.2 ไม่เห็นด้วย
เมื่อถามถึงการนิรโทษกรรมให้กับแกนนำการชุมนุม ปรากฏว่า มีผู้ไม่เห็นด้วย ร้อยละ 61.0 และร้อยละ 21.9 ที่เห็นด้วย ขณะที่ร้อยละ 62.7 ก็ไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมให้กับนักการเมืองที่เกี่ยวข้อง ส่วนร้อยละ 21.4 เห็นด้วย ทั้งนี้เมื่อถามถึงภาพรวมการออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรม มีผู้เห็นด้วย ร้อยละ 28.2 และไม่เห็นด้วย ร้อยละ 55.1
ส่วนจุดประสงค์หลักของการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมในครั้งนี้ประชาชน ร้อยละ 55.3 มองว่าเป็นการออกกฎหมายเพื่อประโยชน์ของผู้มีอำนาจ นักการเมืองบางกลุ่มเท่านั้น มีเพียง ขณะที่ ร้อยละ 28.7 ระบุว่าเป็นการทำเพื่อความปรองดองของคนในชาติ
สำหรับทิศทางการเมืองไทย หากร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมผ่านวาระที่ 3 และนำมาประกาศใช้จริง ร้อยละ 41.3 เชื่อว่า อาจเกิดการชุมนุมต่อต้านขยายในวงกว้าง ขณะที่ ร้อยละ 15.1 เชื่อว่าทำให้ประชาชนสงบสุข ปรองดอง และร้อยละ 14.3 เชื่อว่าจะช่วยลดความตึงเครียดทางการเมืองและสังคมลงได้
เมื่อถามว่าการชุมนุมคัดค้านการออก พ.ร.บ นิรโทษกรรมที่นำโดยพรรคประชาธิปัตย์ว่าจะสามารถยับยั้งการออกกฎหมายฉบับนี้ได้หรือไม่ ประชาชน ร้อยละ 46.8 คิดว่ายับยั้งไม่ได้ และร้อยละ11.6 เท่านั้นที่คิดว่ายับยั้งได้
ส่วนกลิ่นอายของระดับความรุนแรงที่ประชาชนรู้สึกได้เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ประกาศชัดที่จะนำการชุมนุมคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมคือ การปิดถนนและยกระดับการชุมนุม เคลื่อนขบวนไปที่ต่าง ๆ มากที่สุด ร้อยละ 26.4 การปิดถนน มีคนมาร่วมชุมนุมเยอะ และยืดเยื้อกินเวลานาน ร้อยละ 24.4 การชุมนุมจะรุนแรงถึงขั้นต้องใช้กำลังเพื่อสลายการชุมนุม ร้อยละ 15.0
นอกจากนี้กรุงเทพโพลล์ได้วัดระดับความขัดแย้งทางความคิดด้านการเมืองของคนในสังคมไทยปัจจุบันพบว่า ร้อยละ 50.4 เชื่อว่า มีความขัดแย้งอยู่ในระดับมาก ร้อยละ 24.9 ระบุว่า มีความขัดแย้งในระดับปานกลาง ขณะที่ร้อยละ 21.8 เห็นว่า มีความขัดแย้งในระดับมากที่สุด
ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ