จากกรณีรัฐบาลมีนโยบายรับซื้อไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (Solar PV Rooftop) นั้น เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ที่ผ่านมา ในการประชุมของคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาและติดตามแผนการบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพของประเทศไทย วุฒิสภา โดยมีนายวิบูลย์ คูหิรัญ เป็นประธานคณะอนุกรรมาธิการทำการพิจารณาศึกษาเรื่องขั้นตอน วิธีการ ปัญหาและอุปสรรคเกี่ยวกับการผลิตพลังงานไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์

นายวิบูลย์ได้แสดงความกังวลถึงการนำไฟฟ้าจากระบบปกติ เก็บไว้ในแบตเตอร์รีแล้วนำมาขายต่อในโครงการ Solar Rooftop ซึ่งในการประชุม คณะอนุกรรมาธิการได้ชี้แจงว่า ในทางทฤษฎีนั้นสามารถตรวจจับได้โดยการใช้อุปกรณ์ต่างๆ เช่น มิเตอร์ และการเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างเป็นระบบ แล้วนำมาเปรียบเทียบว่า ช่วงไหนมีการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ โดยผู้ขายที่มีความผิดปกติ ทั้งนี้ภายใต้โครงการนี้ หากพบว่าผู้ขายรายใดลักลอบนำไฟฟ้าจากระบบปกติมาต่อเชื่อมกับระบบก็จะยกเลิกสัญญาทันที นอกจากนี้นายวิบูลย์ยังให้ความเห็นว่า ควรจะมีหน่วยงานเฉพาะที่เป็นหน่วยงานกลาง ในการเก็บข้อมูลตัวเลขต่าง ๆ ในการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการ Solar Rooftop นี้ด้วย

นอกจากนี้เมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) หรือเรกูเลเตอร์ ได้ขยายเวลาการยื่นแบบคำขอขายไฟฟ้าและการเชื่อมโยงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (Solar PV Rooftop) สำหรับบ้านพักอาศัยออกไปอีก 1 เดือน จากที่สิ้นสุดวันที่ 11 ตุลาคม เป็นสิ้นสุดวันที่ 15 พฤศจิกายนแทน หลังจากมีจำนวนผู้ยื่นแบบคำขอขายไฟฟ้าในกลุ่มบ้านพักอาศัยทั่วประเทศ ต่ำกว่าเป้าหมาย ที่รับซื้อไว้ที่ 100 เมกะวัตต์ ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai