เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม เว็บไซต์คมชัดลึกออนไลน์ รายงานว่า ผู้สื่อข่าวรายงานข่าว จากข่ายวิทยุสื่อสาร ที่รับฟังได้ในจ.อุบลราชธานี แจ้งว่า เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 16 ตุลาคม เครื่องบินของสายการบินลาวแอร์ไลน์ แบบ ATR 2 ใบพัด ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารจากสนามบินวัดไต นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เพื่อจะลงที่สนามบินนานาชาติปากเซ แขวงจำปาสัก ประเทศ สปป.ลาว เกิดอุบัติเหตุตกกระแทกเกาะกลางแม่น้ำโขง บริเวณเมืองโพนทอง จนตัวเครื่องหักจมลงในแม่น้ำโขง

เบื้องต้นพบว่า ที่มาของอุบัติเหตุเกิดจากทัศนวิสัยไม่ดี ที่เกิดจากอิทธิพลของพายุนารี ที่พัดกระหน่ำในพื้นที่ ขณะที่เครื่องบินของสายการบินลาวแอร์ไลน์ ซึ่งมีชาวกัมพูชาเป็นนักบิน บรรทุกผู้โดยสารจากสนามบินวัดไตเพื่อจะลงตามกำหนดเวลา 16.00 น.แต่ก่อนหน้าที่จะลงนั้น พนักงานหอการบินได้แจ้งให้นักบินทราบว่าทัศนวิสัยไม่ดี พายุหนักมากไม่ควรลงจอด แต่นักบินได้พยายามนำเครื่องลง แต่เครื่องถูกกระแสลมพัดและพายุกระแทกแรงมากจนเครื่องส่ายไป-มา

ก่อนเกิดเหตุนักบินได้พยายามนำเครื่องขึ้นอีกครั้ง แต่พายุได้พัดให้เครื่องเสียการทรงตัวไปกระแทกเกาะดอนโค ซึ่งอยู่กลางแม่น้ำโขง ใกล้หมู่บ้านสะผ่าย และห่างจากสนามบินนานาชาติปากเซ 3 ก.ม. และผลจากแรงกระแทก ทำให้ตัวเครื่องหักครึ่งและจมลงในแม่น้ำโขง นักบิน ลูกเรือและผู้โดยสาร รวม 42 คนเสียชีวิต

ต่อมาเวลา 19.45 น. นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ว่า ตอนนี้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) กำลังตรวจสอบรายละเอียดอยู่ เท่าที่ทราบในเบื้องต้น พบว่ามีผู้โดยสารชาวไทย จำนวน 5 คน แต่ยังไม่ทราบชื่อของคนเหล่านี้

สำหรับเครื่องบินลำนี้ เป็นเที่ยวบินที่ QV301 บินออกจากท่าอากาศยานวัดไต เวียงจันทน์ เวลา 14.00 น. จะไปถึงปลายทางคือเมืองปากเซ แขวงจำปาสัก ในเวลา 15.00 น. แต่เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตกเมื่อเวลา 16.00 น.

สำหรับคนไทยที่เสียชีวิตคือ 1.นายคนึง ชาติเกษมชัย อายุ 47 ปี 2.นายนิพล ชัยชนะกุลดี อายุ 27 ปี 3.นายภควัต อธิรัตนชัย อายุ 50 ปี 4.นายวีกิจ บุษราวุธานุสรณ์ อายุ 38 ปี 5.นายยรรยง อาภาอนันต์ อายุ 29 ปี