เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจเรื่อง “การทำงานของรัฐบาล บทบาทของฝ่ายค้าน และการปฏิรูปพฤติกรรมของนักการเมือง” จากกลุ่มตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ในกรุงเทพมหานครและ เชียงราย นครราชสีมา ชลบุรี และสงขลา จำนวน 1,784 ตัวอย่าง พบว่า

เมื่อสอบถามกลุ่มตัวอย่างถึงความภาคภูมิใจ เมื่อพูดถึงการเมืองไทยในขณะนี้ พบว่า 2 ใน 3 หรือร้อยละ 66.4 รู้สึกอาย เพราะบ้านเมืองเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ขัดแย้งกันเอง ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น ความเดือดร้อนของประชาชน และยังไม่มีแนวโน้มที่จะลดลง ขณะที่ร้อยละ 33.6 รู้สึกภาคภูมิใจ เพราะยังดีที่ประเทศยังคงปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย สำหรับความคิดเห็นต่อการเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนหรือม็อบในขณะนี้ ร้อยละ 80.3 คิดว่ามีการเมืองอยู่เบื้องหลัง และร้อยละ 19.7 คิดว่าไม่มี

ขณะที่ร้อยละ 79.7 ยังมีความหวังต่อการกอบกู้ความเชื่อมั่นศรัทธาของคนไทยต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย หากนักการเมืองยอมลดทิฐิและหันหน้าเข้าหากัน ขณะที่ร้อยละ 20.3 คิดว่าสายเกินไปแล้ว ขอให้คนไทยทำใจยอมรับสภาพ และปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติของสังคมประชาธิปไตย

เมื่อถามถึงการดำเนินงานของรัฐบาล เพื่อเร่งสร้างความเชื่อมั่นกลับคืนมาในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ พบว่า ร้อยละ 71.6 คิดว่ารัฐบาลควรเร่งเข้าถึงประชาชนทุกชนชั้น เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนอย่างทั่วถึง และทำงานอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้ เพื่อเร่งสร้างความเชื่อมั่นกลับคืนมาในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ขณะที่ร้อยละ 28.4 คิดว่า ควรเร่งสร้างความสัมพันธ์ ที่ดีระหว่างประเทศ และการไปพบปะผู้นำประเทศอื่น ๆ

เมื่อถามถึงบทบาทของพรรคฝ่ายค้าน ร้อยละ 79.2 ระบุว่า อยากให้ร่วมกันหาแนวคิดเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ยึดหลักการทำงานด้วยสันติวิธี ไม่ใช้อารมณ์และความรุนแรง และค้านด้วยเหตุและผล และร้อยละ 20.8 ระบุควรค้านการทำงานของรัฐบาลในทุกด้านที่ไม่เห็นด้วย

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai