เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในหัวข้อ “ความคาดหวังของประชาชนต่อผู้พิพากษา” เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นและเพื่อเป็นแนวทางสร้างความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกระบวนการยุติธรรม จำนวน 1,016 คน ระหว่างวันที่ 28 กันยายน - 3 ตุลาคม 2556 สรุปผลดังนี้
ความคาดหวังของประชาชนต่อผู้พิพากษา กรณีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน อันดับ 1 ระบุว่า เมื่อประชาชนมีคดีความต้องขึ้นโรงขึ้นศาล หวังว่าจะได้รับความยุติธรรมจากผู้พิพากษา 41.58 เปอร์เซนต์ อันดับ 2 ระบุว่า สามารถให้คำปรึกษาชี้แนะที่เป็นประโยชน์ เป็นที่พึ่งของประชาชนเมื่อเดือดร้อน 30.27 เปอร์เซนต์ อันดับ 3 เสนอแนะกฎหมายบางตัวที่ยังมีช่องโหว่ หรือมีบทลงโทษที่ไม่รุนแรงพอ สำหรับผู้กระทำความผิด 15.11 เปอร์เซนต์ อันดับ 4 ระบุว่า เผยแพร่ความรู้เรื่องกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้เข้าใจง่าย 13.04 เปอร์เซนต์
2.ความคาดหวังของประชาชนต่อผู้พิพากษา กรณี : สถานการณ์ทางด้านการเมือง อันดับ 1 กลุ่มตัวอย่างระบุว่า วางตัวเป็นกลาง ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง 43.21 เปอร์เซนต์ อันดับ 2 ไม่ตกอยู่ภายใต้อำนาจของนักการเมือง หรือปล่อยให้ผู้มีอิทธิพลเข้ามาแทรกแซง 32.34 เปอร์เซนต์ อันดับ 3 การพิจารณากฎหมายต่าง ๆ ควรนึกถึงประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสำคัญ 18.97 เปอร์เซนต์ อันดับ 4 ระบุว่า ดูแลกฎหมายระหว่างประเทศที่ยังมีช่องโหว่ หรือทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบ 5.48 เปอร์เซนต์
3.ความคาดหวังของประชาชนต่อผู้พิพากษา กรณี : วิชาชีพ 53.46 เปอร์เซนต์ ระบุว่า ขอให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต เป็นที่พึ่งของประชาชน 26.12 เปอร์เซนต์ ระบุว่า ยึดมั่นในจรรยาบรรณวิชาชีพ รักษาภาพลักษณ์ที่ดี เป็นนักกฎหมายที่ดี เพื่อให้ประชาชนเชื่อถือ ศรัทธา ขณะที่ 13.54 เปอร์เซนต์ ระบุว่า การตัดสินที่เด็ดขาด ชัดเจน ตรงไปตรงมา ไม่เลือกปฏิบัติ และ 6.88 เปอร์เซนต์ สามารถเรียนรู้เรื่องเทคโนโลยีและปรับการทำงานให้เหมาะสมกับสภาพสังคมปัจจุบัน
4.ความมั่นใจของประชาชนต่อผู้พิพากษา กรณี : การเป็นที่พึ่งของประชาชน 44.23 เปอร์เซนต์ ค่อนข้างมั่นใจ เพราะเป็นตัวแทนของกระบวนการยุติธรรม ที่มีความรู้ความสามารถ ยังเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของไทย ฯลฯ รองลงมา 38.91 เปอร์เซนต์ มั่นใจมาก เพราะ ผู้พิพากษาเป็นที่พึ่งของประชาชน ปฏิบัติหน้าที่โดยยึดหลักความถูกต้อง ยุติธรรม ฯลฯ 11.56 เปอร์เซนต์ ไม่ค่อยมั่นใจ เพราะบางครั้งการตัดสินคดี ไม่ได้ขึ้นอยู่กับหลักฐานข้อเท็จจริงเพียงอย่างเดียว ดุลยพินิจของผู้พิพากษา และศาลก็สำคัญ ฯลฯ และ 5.30 เปอร์เซนต์ ไม่มั่นใจ เพราะแม้แต่กระบวนการยุติธรรมยังถูกแทรกแซง ประชาชนไม่ได้รับความยุติธรรม มีการตัดสินแบบ 2 มาตรฐาน ฯลฯ
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ